Thursday 27 November 2008

ความเชื่อ ?


รู้ถึงไหนอายถึงนั่นครับสำหรับเหตุบ้านการเมือง ของประเทศไทยเราที่นับวันจะวิกฤติเข้าไปทุกที ...นี่ล่าสุดหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ในอังกฤษก็ตีแผ่ข่าวนี้ให้ประชาชน ของเค้ารับทราบเพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลก่อนการตัดสินใจ หากคิดจะมาพักผ่อนหย่อนใจก็ให้ระวังให้ดี เนื่องจากสนามบินแห่งชาติ ของเรากำลังถูกล้อมจากกลุ่มพันธมิตร

จะอ้างว่าเป็นการทำเพื่อชาติหรือทำเพื่อใครอันนี้ ไม่ขอออกความเห็นแต่การกระทำแบบนี้แน่นอนว่า "ภาพลักษณ์" ของประเทศเสียหายหลายแสน (ซึ่งจริงๆแล้วมิอาจประเมินเป็นราคาค่างวดได้เลย) ยิ่งเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงถดถอยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่คาดการณ์กันว่าจะลดลงกว่า ครึ่งยิ่งมาเจอข่าวเสียแบบนี้ซ้ำเติมเข้าไปอีก ก็แน่นอนครับว่าพวกธุรกิจทัวร์, โรงแรม หรือสายการบินเตรียมปลดพนักงานที่ไม่จำเป็นรอได้เลย

ถึงตรงนี้ออกตัวก่อนว่าผมซึ่งจากประเทศไทยมาได้ 2 ปีกว่าๆแล้วไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายไหนทั้งสิ้นเนื่องจากเบื่อเรื่องการเมืองที่นับวันจะยิ่งเน่าเฟะขึ้นทุกที แต่ก็อดไม่ได้จริง ๆ ที่จะขอเขียนถึงเนื่องจากเป็นห่วงอนาคตของประเทศที่ปัญหาการเมือง ยังไม่คลี่คลายปัญหาเศรษฐกิจก็กำลังจะเข้ามารุมเร้าอีก...อะไรกันนักหนาเนี่ย !!?

อ่านะ อ่านแล้วก็อย่าอินตามผมมากล่ะแบบว่าอยากให้ท่านผู้อ่านใดที่ไม่ค่อยได้ตามข่าว บ้านการเมืองได้รับรู้ข้อตรงนี้เอาไว้บ้างว่าต่างชาติเค้ามองเราอย่างไร และสำหรับท่านใดที่ตามอยู่แล้วก็ไม่อยากให้ไปโฟกัสหรือซีเรียสกับมันมาก เอาเวลาไปใส่ใจเรื่องงานหรือเรื่องเรียนแบบเพียวๆเป็นหลักดีกว่า คิดซะว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดพวกเรามันคนนอกคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากทำวันนี้ให้ดีที่สุดกันไป เรื่องใช้จ่ายก็ต้องมัธยัสถ์กว่าเดิมขึ้นอีกนิดชีวิตบั้นปลายจะได้ไม่ลำบาก ส่วนเรื่องการเมืองหากมีการเลือกตั้งอีกที (ซึ่งคงเกิดขึ้นแน่) ก็อยากให้ไปออกสิทธิ์แสดงพลังประชาธิปไตยกันเลือกคนที่ท่านคิดว่า "ใช่" ที่สุดเข้ามารับใช้ประเทศ ชีวิตและปากท้องพวกเราขึ้นอยู่กับบุคคลกลุ่มนี้นะครับ

สำหรับคอบอล คอหวยที่ชอบเสี่ยงโชคทั้งหลายก็เพลามือเพลา ไม้ลงกันหน่อยนะฮะเข้าใจว่าเงินทองมันหายาก บางทีการเสี่ยงแบบนี้ก็ดูได้ผลตอบแทนเร็วดี (ไม่เหนื่อยด้วย) แต่จากการที่ผมลองมาหมดแล้วในอดีต (ฮา) ขอบอกว่าสุดท้ายแล้วมันไม่เวิร์กหรอกครับ เจ้ากับโต๊ะ มีแต่รวยกับรวยเล่นกันพอเป็นพิธีขำ ๆ ให้หัวใจได้ Exercise กันพอหายอยากก็พอแล้วเด้อ

ผมเองทุกวันนี้ก็ใช่ว่าจะเลิกขาดนะครับยังแอบวิ่ง ไปใส่บอลชุดที่ William Hill (ร้านรับพนันแบบถูกกฎหมายที่นี้) อยู่เรื่อยๆแต่เล่นที 1 ปอนด์กาทีเกือบสิบคู่กะว่าถ้าถูกก็รวยกันไปเลยทีเดียว ฮาๆแบบว่าถือคติชีวิตอยู่ได้ด้วยความฝัน ความหวัง และความเชื่อ

พูดถึงเรื่อง "ความเชื่อ" แล้วก็ขอวกเข้าเรื่องฟุตบอลสักนิดเถอะพอดีว่าอาทิตย์ก่อนอ่านเจอในเว็บ Four Four Two ซึ่งเป็นแม็กกาซีนฟุตบอลรายเดือนชื่อดังของอังกฤษได้ทำการวิจัย เรื่องความเชื่อและหลักปฏิบัติก่อนเกมของแฟนบอลผู้ดี (Pre-match ritual designed) จำนวนสองล้านคนปรากฏว่าพี่ไทยเราที่เชื่อเรื่องโชคลางคงต้องชิดซ้ายและอ่านทางนี้ครับ

1 ใน 3 ของแฟนบอลเชื่อว่าการที่พวกเค้าเลือกนั่งผับหรือบาร์ไหนแล้ว ทีมชนะสัปดาห์ต่อไปที่มีแข่งอีกก็จะนัดรวมตัวกันที่เดิมเพื่อ "ดื่ม" อีกแต่หากว่าแพ้ก็จะย้ายไปผับอื่น ขณะที่ 21% ถือเคล็ดเสื้อผ้า "นำโชค" อย่างเช่นการใส่ผ้าพันคอ ถุงเท้า และชั้นในสีเดียวกันจะทำให้ทีมชนะ 10% เชื่อเรื่องอาหารนำโชค ที่แปลกกว่าก็คือคู่รักบางคู่มีเซ็กส์กันก่อนเกมจะเริ่ม!! (อันนี้น่าสน 555)

ไม่ใช่เฉพาะแฟนบอลนะครับที่มีความเชื่อส่วนตัวแผลง ๆ ก่อนเกม จอห์น เทอร์รี่ที่หน้าตาไม่น่าจะงมงายเรื่องพวกนี้ก็จะมีสนับแข้งนำโชคส่วนตัวและ ฟังซีดีโปรดของตัวเองทุกครั้งในห้องแต่งตัว, ริโอ เฟอร์ดินานด์เอาน้ำราดหน้าตัวเองในอุโมงค์นักเตะก่อนเดินลงสนาม และเดวิด เบ็คแฮมก็เอากับเค้าด้วยต้องหาสัญลักษณ์หรือชื่อนำโชค (ชื่อกิ๊กหรือชื่อลูกเมีย หว่า?) มาแปะไว้ที่รองเท้าสตั๊ดตัวเอง

แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ อัจฉริยะสันหลังยาวอดีตฮีโร่ของ "นักบุญ" เซาแธมป์ตันได้ออกมาคอมเมนต์ถึงเรื่องความเชื่อพวกนี้ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการฟุตบอลแต่อย่างใดเนื่องจากตัวเค้าเอง สมัยเป็นนักเตะก็เคยได้รับของขวัญปีใหม่เป็นถุงเท้า Mr Blobby (ตัวการ์ตูนชื่อดังในรายการทีวีอังกฤษ) สีชมพูสด ใส่ลงสนามมาแล้ว !

ครับ เรื่องพวกนี้ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่เพราะนักกีฬาดังๆ ที่เราเห็นหลายคนอย่างพี่บอลของน้องนาตาลีก็เคยมีเสื้อสีแดงแรงฤทธิ์ไว้เป็น "ท่าไม้ตาย" แต่ช่วงหลังชักไม่เวิร์กเลยเลิกไป ส่วนล่าสุดนี่ก็นิคลาส เบนด์ทเนอร์ใส่สตั๊ดสีชมพูหวานแหววได้อีกลงสนามให้สนาม ให้อาร์เซนอลนัดที่สองแล้วซัดประตูเคียฟได้ด้วยเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าพี่แกจะถือเคล็ดหรือประชดอะไรวิลเลี่ยม กัลล่าส์รึเปล่าที่ออกมาเรียกร้องให้แข้งปืนโตโชว์ความห้าวหาญในสนามมากกว่านี้ ฮา

ส่วนบางประเทศแบ่งความเชื่อออกเป็นสองขั้ว เหลืองกับแดงต่างฝ่ายต่างก็อ้างว่าทำ "เพื่อชาติเพื่อประเทศ" แต่ที่เห็นมีแต่ความป่นปี้และเสียหาย แบบนี้สู้ไม่แบ่งสีแบ่งข้างจะดีกว่ามั้ยตัวเอง ? เวรของกรรมพิมพ์ไปพิมพ์มาไหงมาจบลงที่เรื่องการเมืองฟร่ะตรู วันนี้พอเท่าแค่นี้ดีกว่าเดี๋ยวจะยาว ^^
Top 10 ความเชื่อของแฟนบอลในอังกฤษ
1. ผับนำโชค 35 %
2. เสื้อผ้านำโชค 21 %
3. ของกินนำโชค10 %
4. ใช้เส้นทางเดิมในการไปสนาม9%
5. พนันขันต่อทีมรักตัวเองทุกเกมที่ลงสนาม 4%
6. มีเซ็กส์กับคนรัก 3%
7. จอดรถที่เก่าเวลาเดิม3%
8. ฉี่ที่ห้องน้ำเดิม 3%
9. สวดมนต์ 3%
10. ฟังเพลงสุดโปรด 2%

3 comments:

inkduie said...

ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมครับ ประเทศชาติก็เลยต้องรับไป
ผมก็หวังว่านี้คงจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายไปสู่การเมืองที่ดีขึ้น

เราทำได้อย่างมากก็คือทำใจครับ เฮ้อ!!!!

เอก อุดมสุข said...

หวังไว้เช่นนั้นเหมือนกันครับ.... พูดแล้วก็เหนื่อยใจจิงๆบ้านเมืองเรา >.<

Konijiwa said...

ประเทศโดน จับเป็นตัวประกันครับ
โดนมีดจ่อคอหอยอยู่ เหอๆๆๆ เบื่อสุดๆๆ


มาดูกีฬาดีที่สุดครับ


กับรองเท้าสีชมพู สุดยอดมากก