Sunday 9 November 2008

เกาะขอบสนามเกมอาร์เซนอล-แมนฯยูฯ : กับอีกวันที่เวนเกอร์ชนะเสียงวิจารณ์จาก‘สื่อ’



วันเสาร์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปชม ‘บิ๊กเกม’อย่างอาร์เซนอล VS แมนฯยูไนเต็ดถึงสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาครับ : )

จะว่าไปแล้วเกมนี้ถือเป็นGame of the seasonกลายๆเลยก็คงไม่ผิดเพราะหากอาร์เซนอลเกิดพลาดพลั้งเสียทีต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในบ้านตัวเองครั้งนี้ พวกเค้าอาจจะหลุดจากวงโคจรการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิพตั้งแต่ไก่โห่เลยก็เป็นได้

ก่อนเกมนี้อย่างที่ทราบกันว่าพลพรรคปืนโตกำลังพบเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและกดดันสุดๆหลังจากควานหาชัยชนะไม่เจอมา3นัดติด...ความเชื่อมั่นทั้งจากสื่อและแฟนบอลที่มีต่ออาร์เซน เวนเกอร์เริ่มมีเสียงวิจารณ์เล็ดลอดออกมาให้เราเห็นกันบ้างตามหน้าหนังสือพิมพ์หรืออินเตอร์เนต

ทั้งเรื่องสไตล์บอลที่สวยงามแต่ขาดความหนักหน่วง อาการจิตตกของเวนเกอร์ที่ออกมาคอมเมนท์เรื่องนักเตะทีมอื่นจ้องจะทำร้ายลูกทีมของเค้าอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์กับโทนี่ พูลิสกุนซือสโต๊คหรือนโยบาย‘อยู่แบบพอเพียง’ของเวนเกอร์ที่เน้นการปั้นดาวรุ่งไม่ค่อยจะทุ่มเงินซื้อความสำเร็จสักเท่าไรจนหลายคนรวมทั้งผมเองเริ่มมองเห็นสัญญานอันตรายเกรงว่าอาร์เซนอลจะไปไม่ถึงฝั่งฝาอีกครั้งนึงในปีนี้

ก่อนเกมนี้กับแมนฯยูไนเต็ดหลายฝ่ายเชื่อว่าอย่างเก่งอาร์เซนอลคงทำได้แค่เสมอเนื่องจากจากการขาดหายไปของตัวหลักอย่างเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่สองกองหน้าตัวความหวังของทีม ส่วนพวก ซิลแวสต์, กัลลาส, ซานญ่าและธีโอ วัลค็อตต์ก็ต้องรอทดสอบความฟิตกันจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนจะโชคดีมีโอกาสได้ลงสนาม
เกมนี้อาร์เซนอลลงเล่นแบบในระบบ 4-5-1ห้อยกองหน้าร่างโย่งอย่างนิคลาส เบนด์ทเนอร์ไว้เป็นหน้าเป้าเพียงคนเดียวโดยกองกลางตัวกลางยืนเป็นสามเหลี่ยมไดมอนด์มีเชสก์ ฟาเบรกาสและอาบู ดิอาบี้ยืนสูงหน่อยและให้เดนิลสันยืนเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์อยู่หน้าแบ็คโฟร์คอยทำหน้าที่เชื่อมเกมจากหน้าไปหลัง

ขณะที่ทีมเยือนอย่างแมนฯยูไนเต็ดความมั่นใจกำลังดีมีสามตัวรุกอย่างดิมี่ เบอร์บาตอฟ, เวยน์ รูนี่ย์และคริสติอาโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวชูโรงเช่นเคย

เกมเริ่มต้นด้วยความสูสีและเปิดเกมรุกใส่กันแบบไม่มีกั๊กสมเป็นกับการรอคอยของหลายๆคนครับแมนฯยูไนเต็ดเกมนี้โอกาสนั้นมีจะแจ้งอยู่สองสามถึงครั้งที่ควรจะเป็นประตูแต่ก็ทำกันไม่ได้ นัยว่าสวรรค์จะยังไม่ต้องการให้อาร์เซนอลหลุดจากโอกาสลุ้นแชมป์...

เวยน์ รูนีย์ที่ก่อนหน้านี้ยิงเป็นหายเกมนี้ดูเหมือนลืมพกเรดาห์ไว้ที่รองเท้าขนาดได้โอกาสยิงโล่งในกรอบเขตโทษกลับซัดข้ามคาน ขณะที่โรนัลโด้ที่เกมนี้ดูค่อนข้างเงียบได้โอกาสจากการครอสบอลของปาร์ค จี ซุงก็อัดหลุดกรอบหน้าตาเฉย

หรือจังหวะที่กาแอล คลิชี่แฮนด์บอลค่อนข้างชัดเจน กรรมการในเกมนี้อย่างฮาวเวิร์ด เว็บบ์ก็ดันโดนบังมองไม่เห็นเสียอย่างนั้น !?

นั้นคือความผิดพลาดในแนวรุกของแมนฯยูฯที่เกมนี้ขาดความเฉียบคมไปพอสมควร ขณะที่เกมรับการใส่ชื่อแกรี่ เนวิลล์กัปตันทีมในตำแหน่งแบ็คขวาดูตามไลน์อัพ + ชื่อเสียงเก่าๆที่สะสมมาถือว่าดูดีทีเดียว ผิดกับ ‘เรื่องจริง’ที่เกิดขึ้นในเกมนี้ การโดนซามีร์ นาสรี่ปีกซ้ายเจ้าบ้านที่คล่องและไวกว่าเยอะพาทัวร์และหลอกล่อจนเสียผู้ใหญ่ไปหลายครั้งหลายหนทีเดียวในเกม

สุดท้ายเฟอร์กี้คงทนไม่ได้เพราะโดนบุกทางขวาเยอะเหลือเกินจึงจัดการถอดลูกรักกัปตันทีมออกแล้วใส่เลือดใหม่อนาคตไหลอย่างราฟาเอล ดา ซิลวาลงไปแทนซึ่งจากนั้นเกมฝั่งขวาของแมนฯยูฯดูคึกคักขึ้นเยอะและสุดท้ายก็ยิงประตูตีไข่แตกให้ทีมได้ด้วยในช่วงนาทีสุดท้ายของเกม

ประตูนี้ของราฟาเอลตอกย้ำชัดเจนครับว่าวันเวลาของเนวิลล์ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดได้เริ่มนับถอยหลังอย่างเป็นทางการแล้ว...

กลับมาพูดถึงอาร์เซนอลผู้ชนะในเกมนี้กันต่อ จริงอยู่ที่เกมนี้พวกเค้าสามารถตอบโจทย์ข้อสงสัยที่ว่าพวกเค้ามีดีพอหรือยังสำหรับการลุ้นแชมป์ในปีนี้ได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจนด้วยการปราบยอดทีมอย่างแมนฯยูไนเต็ดได้สำเร็จทั้งที่สภาพทีมพิกลพิการแบบนี้ก็ขอชื่นชม‘ทีเด็ด’ของซามีร์ นาสรี่ซึ่เทพจริงๆเกมนี้กดไป2ตุงดูแล้วเพลินตาคล้ายโรแบร์ ปิแรสผสมกับอเล็กซ์ คเล็บชะมัด !

อย่างไรก็ดีเกมนี้คู่แข่งของพวกเค้าไม่ได้เปิดตำรามหาอุตเนื่องจากทีมผีแดงเป็นทีมที่เน้นเกมรุกเหมือนๆกัน อีกทั้งไมเคิ่ล คาร์ริค แอนเดอร์สันก็เป็นนักบอลประเภทชั้นเชิงและไม่ใช่ตัวตัดเกมโดยธรรมชาติ เกมจึงค่อนข้างเปิดและเข้าทางอาร์เซนอล

แต่ถ้าวันใดที่พวกเค้าต้องเจอทีมที่บ้าพลังหรือเล่นบอลเข้าถึงลูกถึงคนและเน้นตั้งรับซิครับผมยังเป็นห่วงอาร์เซนอลชุดนี้อยู่ไม่น้อยว่าจะทำแต้มหลุดมืออีกรึเปล่า ?

เอาละครับไม่อยากวิจารณ์มากเดี๋ยวต้องรอดูกันต่อไปดีกว่าว่าพวกเค้าจะตอบโจทย์ตรงนี้ของผมได้มั้ย เอาเป็นว่าเกมนี้เก็บ3คะแนนเต็มได้และยังรักษาโอกาสลุ้นแชมป์อยู่เมื่อห่างจากลิเวอร์พูลจ่าฝูงอยู่6คะแนนเช่นเดิมก็ถือว่าทำผลงานได้เข้าเป้าของเวนเกอร์แล้วในเกมนี้เพราะชนะทั้งแมนฯยูฯของเฟอร์กี้และกลบเสียงวิจารณ์จากสื่ออังกฤษที่กำลังจ้องจะเล่นงานได้สำเร็จ...

3 comments:

ธานคับ said...

หวัดดีครับคุณเอก ผมอุตสาห์แช่งมันเต็มที่ แต่ไม่สำเร็จ ดีนะที่ทีมเราชนะ กลายเป็นว่า เป็นสัปดาห์เศร้าของพวกแมนคูเนียนจริงๆ ฮ่าๆๆๆ

เอก อุดมสุข said...

ผมก็แอบแช่งอาร์เซนอลอยู่เหมือนกันครับ ^^'

Anonymous said...

ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ