Monday 24 November 2008

สเปอร์สชนะก็จริงแต่จุดอ่อนยังมี


วันอาทิตย์ที่ผ่านมาขณะกำลังนอนหลับสบายๆใต้ผ้าห่มขนเป็ดสุดหนาของผมก็ต้องสะดุ้งโหยงลุกขึ้นมาจากเสียงนาฬิกาปลุกที่ตัวเองตั้งไว้ ณ เวลา 9โมงตรง

‘โหย ยังไม่อยากตื่นเลย’ผมคิดในใจเนื่องจากคืนวันเสาร์นั่งดูหนังเรื่อง ‘Me myself ขอให้รักจงเจริญ’ จบเกือบตีสี่ เปิดตาขึ้นมาเห็นภาพหิมะโปรายปรายลงมาจากหน้าต่างบานใหญ่ทั้งสองในห้องนอน ความรู้สึกเซอร์ไพร์สปนตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะนานๆทีลอนดอนจะมีหิมะตก (ส่วนใหญ่จะมีในพื้นที่ทางเหนือของอังกฤษเช่นเมืองแมนเชสเตอร์หรือนิวคาสเซิ่ลซึ่งใกล้กับสก็อตแลนด์) จึงทำให้ตัดสินใจรีบดีดตัวเองลุกขึ้นมาเตรียมตัวไปดูเกมคู่สเปอร์ส-แบล็คเบิร์นที่ไวท ฮาร์ท เลนดีกว่าครั้งนี้ว่าจะไปเดินเล่นในสเปอร์สเมกะสโตร์ด้วยแบบว่าเลือดเศรษฐีเดือดอยากซื้อของสนองตัณหา !!(จริงๆแล้วก็ได้แค่เดินมองอ่ะครับไม่มีปัญญาซื้อ ฮา)

การเดินทางจากบ้านผมที่ Earl’s court ไปสนามของสเปอร์สซึ่งอยู่ใกล้กับสเตชั่น Seven Sisters ถือว่าไม่ใกล้เหมือนการไปสนามของเชลซีหรือฟูแล่มครับเพราะใช้เวลานั่ง Underground(รถไฟใต้ดิน) + รถเมล์ต่อกินเวลาร่วมๆชั่วโมงเหมือนกัน

วันนี้สภาพอากาศจัดเข้าขั้นหนาวมากแต่ยังไม่หนาวสุดเพราะวัดอุณหภูมิได้ประมาณ4องศาแต่ไอ้การที่มีฝนตกปรอยๆ + ลมพัดแรงๆเนี่ยสิครับท่านผู้อ่านเอกพลผู้กลัวความหนาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงหัวหดไม่กล้าเดินเล่นรอบสนามอย่างตั้งใจไว้เลยครับพี่น้อง 555
ไฮไลท์ที่น่าสนใจก่อนเกมนี้แฮร์รี่ เรดแนปป์มีการนำทอม ฮัลเดิลสตันกองกลางดาวรุ่งหุ่นเฮฟวี่ เวตไปเปรียบกับเกล็น ฮอดเดิ้ลอดีตตำนานในเล้าไก่ว่าเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถในการผ่านบอลสั้น-ยาวยอดเยี่ยมไม่แพ้กันนอกจากนี้ยังบอกว่าจะใช้หมอนี่เป็นเป็นจอมทัพของทีมในการขึ้นบอลและควบคุมจังหวะของเกม โดยตำแหน่งหากเปรียบกับอเมริกันฟุตบอลก็จะคล้ายๆกับควอเตอร์แบ็คที่คอยจ่ายบอลจากแนวหลังให้พวกกองหน้าหรือตัวจี๊ดอย่างเบนท์, พาฟลิวเชนโก้, เลนน่อลหรือแคมป์เบลล์ต้องพยายามวิ่งหาพื้นที่ว่างใช้ความได้เปรียบจากลูกจ่ายอันคมกริบของฮัลเดิลสตันเจาะแนวรับคู่แข่งแบบไม่ต้องเสียเวลาต่อบอลให้มากจังหวะเกินความจำเป็น

เกมนี้หากได้ดูกันก็คงจะเห็นพ้องตรงกันกับผมนะครับว่า ‘ลุงจ่า’ใช้ทอมมี่เป็นศูนย์กลางในการขึ้นบอลอย่างที่ว่าเอาไว้และวางบอลสวยๆที่มีให้เห็นอยู่เป็นระยะ โดยนัยแฝงของเรื่องนี้ก็คือ‘ที่ว่าง’ ในตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กลางจะเหลืออีกเพียงที่เดียวสำหรับดิดิเยร์ โซโกร่า, เจอร์เมน จีนัสหรือลูก้า โมดริชที่จากนี้คงต้องเค้นผลงานออกมาให้ดีหากอยากลงเล่นอย่างต่อเนื่อง (งานนี้ผมแอบแช่งให้เจ้าจีนัสโดนดองเค็มครับเพราะจ่ายบอลเสียบ่อยมาก)

11ผู้เล่นที่ทั้งสองทีมส่งลงสนามในเกมนี้ถือว่าเป็นชุดใหญ่ที่จัดลงมาเลยก็ว่าได้ ‘เจ้าถิ่น’สเปอร์สลงเล่นในระบบ 4-4-2 มีเลดลีย์ คิงกับโจนาธาน วู้ดเกตลงคุมเกมในแนวรับโดยขณะที่ตำแหน่งแบ็คซ้าย แกเรธ เบลที่พักหลังฟอร์มออกทะเลโดนดร็อปไปเป็นตัวสำรองแต่ยังทำหน้าระรื่นและแลบลิ้นใส่ผมด้วยนะ ! (พอดีผมมองและยิ้มให้ขณะที่เจ้าตัวกำลังเดินมานั่งที่ซุ้มม้านั่งสำรอง)

ตำแหน่งปีกซ้ายวันนี้เรดแนปป์จับเดวิด เบนลีย์มายืนแทนโมดริชที่เดี้ยงส่วนแอร่อน เลนน่อลได้ลงประจำการทางกราบขวากองหน้าเป็นดาร์เรน เบนท์คู่โรมัน พาฟลิวเชนโก้

ทางฝั่งแบล็คเบิร์นดูแล้วก็น่าจะเป็นชุดที่ดีที่สุดเช่นกันขาดแค่คาร์ลอส บีญานูเอล่าและสตีเฟ่น วอร์น็อคส่วนตำแหน่งอื่นๆยังอยู่กันครบทั้งแกมต์ พีเดอร์เซ่น, เบร็ตต์ เอเมอร์ตันในตำแหน่งปีกทั้งสองข้างส่วนกองหน้าเกมนี้ใช้โรเก้ ซานตา ครูซ คู่เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์

รูปเกมโดยรวมเป็นเจ้าถิ่นสเปอร์สที่เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกใส่อยู่แทบจะวันเวย์เพราะกองกลางช่วยกันวิ่งบี้จนมิดฟิลด์แบล็คเบิร์นครองบอลกันไม่ถนัดและต่อบอลกันเสียเองบ่อยครั้ง ความผิดพลาดในนาทีที่ 9 ประตูขึ้นนำและประตูเดียวของเกมนี้ก็เกิดจากการวิ่งเข้ามาบีบเร็วของแอร่อน เลนน่อลที่วิ่งมาฉกบอลไปจากเท้าของมาร์ติน โอลส์สันแบ็คซ้ายทีมเยือนและใช้สปีดเร็วกว่านรกลากบอลไปจนสุดเส้นหลังตบกลับเข้ามาให้ ‘โรมัน 5หลา’ ที่ไม่ได้เป็นญาติอะไรกับโจ้ห้าหลาของไทยเราแต่สไตล์การเล่นเหมือนกันยังกับก็อปกันมาปาดบอลเข้าไปง่ายๆ 1-0

ครับ ในจังหวะนี้จะยกเครดิตให้โรมัน พาฟลิวเชนโก้คนเดียวคงไม่ถูกเพราะ‘พระเอกตัวจริง’ของเกมนี้ที่ชื่อว่าแอร่อน เลนน่อลได้กลับมา Re-born จุติฟอร์มเทพอีกครั้งนึงแล้วหลังจากที่ภายใต้ยุคของฆวนเด้ รามอสปีกขวาเล็กพริกขี้หนูรายนี้เป็นแค่หนูถีบจักรที่ไร้ซึ่งอิสระภาพทางการเล่นและโดนจำกัดไอเดียในการสร้างสรรค์เกมไปพอสมควร แต่ฟอร์มแบบนี้การที่เรดแนปป์ออกมาสนับสนุนให้ฟาบิโอ คาเปลโล่ให้ชายตาแลเลนน่อลบ้างในตำแหน่งปีกขวาทีมชาติอังกฤษไม่ใช่เรื่องที่เกินไปเลยเพราะก่อนหน้านี้นักเตะหลายคนที่ฟอร์มอยู่ในช่วง ดาวน์สุดๆก็เรดแนปป์ก็สามารถพลิกฟอร์มพวกเค้าได้ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา...

ดาร์เรน เบนท์กลับมายิงกระจุยกระจายเหมือนในช่วงปรี-ซีซั่นอีกครั้ง, เลดลีย์ คิงลงเล่นติดๆกันได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้เล่นนัดพักนัดมาตลอด, โรมัน พาฟลิวเชนโก้ถึงจะยังไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกม+ดูนุ่มนิ่มเกินไปสำหรับบอลหนักๆในอังกฤษเหมือนเดิมแต่อย่างน้อยเรดแนปป์ก็ดึง ‘จุดเด่น’ หมอนี่ออกมาได้ในการยืนหาตำแหน่งสวยๆพังประตูให้ทีม หรือ ทอม ฮัลเดิลสตันก็กำลังพัฒนาฟอร์มการเล่นได้อย่างต่อเนื่อง ฯลฯ
แต่ทว่าคนนึงที่ฟอร์มยังน่าเป็น
ห่วงเหมือนเดิมคือฮูเรลโญ่ โกเมสนายทวารแซมบ้าที่เกมนี้ดูแล้วทั้งสีหน้าและผลงานการออกมาคว้าลม+ทำบอลหลุดมือ(อีกแล้ว)

“It’s very sad. Sometimes at night I worry about it and can’t sleep. I just think: why am I so lonely on the pitch? I go to sessions with my psychiatrist . . . It’s lonelier for a goalkeeper than a striker, but I can cope with it because I’ve been playing football for a long time” - Edwin van der Sar

ประโยคนี้คือนิยามความรู้สึกของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ที่มีต่อตำแหน่งผู้รักษาประตูที่เค้าทำหน้าที่มาเนิ่นนานหลายปี...คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าตำแหน่งนี้ถือว่าอ้างว่างโดดเดี่ยวและเครียดกว่าตำแหน่งอื่นๆในสนามมากทีเดียว

ฮูเรลโญ่ โกเมสอาจจะดูเป็นตัวตลกในสายตาของทุกฝ่ายนะครับในเวลานี้แต่ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าเมื่อไรก็ตามที่เรดแนปป์และโทนี่ ปาร์คโค้ชผู้รักษาประตูคนใหม่ของสเปอร์สสามารถหาทีเด็ดมาฟื้นฟูฟอร์มและความมั่นใจโกเมสให้กลับมาสูงเหมือนเดิมได้เมื่อไร เมื่อนั้นอดีตรองนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกฮอลแลนด์ปีที่แล้วจะเริ่มตอบแทนค่าตัว 7.8ล้านปอนด์ให้สเปอร์สคุ้มเกินคุ้มแน่นอน

สรุปภาพของทีมตราไก่ในเวลานี้นะครับ การที่สเปอร์สเล่นกับแบล็คเบิร์นซึ่งมีผู้เล่นเพียงแค่10คนตั้งแต่นาทีที่40 แต่กลับยิงประตูเพิ่มไม่ได้ประเด็นนี้ผมถือว่าน่าสนใจมากว่าหากเจอคู่แข่งที่เขี้ยวกว่าทีมกุหลาบไฟ ดีไม่ดีสเปอร์สอาจจะโดนตีเสมอถึงแพ้ได้อีกทั้งฟอร์มของกองหน้าที่แม้ผลงานส่วนตัวจะทำได้ดีแต่การประสานงานของทั้งเบนท์และพาฟลูยังถือว่า‘ไม่ผ่าน’เมื่อบวกกับประเด็นฟอร์มร่วงมหาราชของโกเมสแล้วถือว่า‘ลุงจ่า’แฮร์รี่ยังต้องปรับปรุงอีกหลายจุดทีเดียวครับ

5 comments:

inkduie said...

หวัดดีครับคุณเอก..

รบกวนฝากถามเร้ดแนปป์หน่อยทำไมโจ้ได้ลงทุกนัดเลย ถ้าไม่เจ็บ ผมสงสัยมากๆ หรือทำสัญญาไว้ตอนซื้อมา อิอิอิ....

เอก อุดมสุข said...

หวัดดีครับคุณ inkduie

ส่วนใหญ่เวลาโค้ชให้สัมภาษณ์หลังเกมนักข่าวจากเอเชียอย่างไทย เกาหลี หรือญี่ปุ่นนั่งเงียบอย่างเดียวครับ...นักข่าวเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายยิงคำถามอย่างเมามันในเวลาอันจำกัด(ไม่เกิน15นาที)

ไว้รอผมมีความกล้าอีกนิดจะถามให้นะครับ แบบว่าอยากรู้เหมือนกันมันมีอะไรดี !!??

Konijiwa said...

หวัดดีครับคุณเอก
นัดต่อไป เจอเอฟเวอร์ตัน ยังไงก็ขอสามแต้มหน่อยละกัน

เพราะเอฟเวอร์ตันแพ้มา ผมว่ากำลังใจเราดีมากถึงจะเล่นยังไม่ดีมากกก

แต่ผมเชื่อว่า เราเล่นได้มั่นใจเลยทีเดียวนะครับ

เอก อุดมสุข said...

หวัดดีครับ คุณเปา

วันอาทิตย์หน้าเจอเอฟเวอร์ตันอย่างน้อยๆน่าจะมี 1คะแนนครับ ถึงแม้ เอฟเวอร์ตันของเดวิด มอยส์จะไม่หมูก็ตาม ^^

Anonymous said...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ