Thursday 6 November 2008

หงส์แดง...กับอีกนัดที่โกงความตายได้สำเร็จ


ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกคืนวันอังคารที่ผ่านมา ผลงานของสองทีมใหญ่จากเกาะอังกฤษอย่างเชลซีและลิเวอร์พูลถือว่า "สอบตก" กันเรียบวุธ...


สิงห์ไฮโซโดนเผาเครื่องไป 3-1 ทั้งที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งโชว์ฟอร์มเยี่ยมไล่อัดซันเดอร์แลนด์ไป 5-0 ส่วน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลโกงความตายเป็นครั้งที่เท่าไหร่จำไม่ได้แต่บอกได้คำเดียวว่าผลงานน่าผิดหวังเหลือเกิน

ลังเลอยู่สักพักว่าจะชมคู่ไหนดี เพราะเชลซีก็น่าสนใจในการออกไปเป็นทีมเยือนแต่การที่เพิ่งจะเห็นฟอร์ม พวกเค้ามาจากการไปชมเกมสดถึงขอบสนามมาเมื่อวันเสาร์ทำให้หลงคิดว่าน่าจะเก็บได้อย่างน้อย 1 คะแนนในการเจอโรม่าที่ฟอร์มบู่ได้อีกแพ้มา 5 นัดรวด และลูชาโน่ สปัลเล็ตติก็มีสภาพเป็น Dead Man Walking ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะโดนปลดเมื่อไร

แต่ทว่าด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้นกลับทำให้พวกเค้าโชว์ฟอร์มได้ตามมาตรฐานของตัวเองอีกครั้ง ส่วนเชลซีนัยนึงก็มองได้ว่าพวกเค้าตกเป็นเหยื่อของความประมาท ของตัวเองหลังจากพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมก่อนเกมนี้ โดยหนึ่งวันก่อนแข่งก็มีข่าวเล็ดลอดมาจากแคมป์เชลซีว่าบิ๊กฟิล สโคลารี่มั่นใจถึงขนาดที่ว่าเชลซีจะเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีกซีซั่นนี้และอยากจะขอจองโรงแรม Cavalieri Hilton ที่กรุงโรมไว้ให้ทีมล่วงหน้าเลยด้วยซ้ำ

หากเล่นได้แค่นี้...สงสัยค่าจองโรงแรมจะเสียฟรีนะครับบิ๊กฟิล!

ส่วนเกมคู่หงส์แดงปะทะทีมตราหมีที่ผมเลือกชมอยู่ทางช่อง ITV1 (ฟรีทีวีของที่นี่) บทสรุปก็ออกมาอย่างที่เห็นลิเวอร์พูลยังไม่สามารถแสดงให้ทุกคน เห็นว่าพวกเค้ามีความสม่ำเสมอในฟอร์มการเล่นสักเท่าไร บทจะเล่นดีก็ดีใจหายบทจะช็อตก็หมดไอเดียที่จะสร้างสรรค์เกมไปดื้อๆ

ยิ่งวันไหนสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดหัวใจในแดนกลางของทีมไม่ท็อปฟอร์มผลงานโดยรวมของทีมมักจะสะดุดทันที...

เกมนี้ก็เช่นกันที่ผลงานของกัปตันทีมหงส์แดงไม่โดดเด่นเหมือนเช่นเคย ขณะที่เพื่อนรวมทีมรายอื่นๆก็ต่อบอลสั้น-ยาวผิดพลาดหลายจังหวะ วิงแบ็กทั้งสองข้างของทีมอย่างอัลบาโร่ อาร์เบลัวและฟาบิโอ ออเรลิโออย่างที่ผมเรียนไปเมื่อวานว่ายังเป็น "จุดบอด" ของทีมชุดนี้มาอย่างต่อเนื่อง รุกไม่เด่นรับก็ไม่ค่อยจะดี และขึ้นเติมเกมแบบกล้าๆกลัวๆโดยตลอดไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระเดิร์ค เคาท์และอัลเบิร์ต ริเอร่าสักเท่าไร
ส่วนร็อบบี้ คีนกับในบทบาทกองหน้าตัวเป้าคนเดียวก็โดดเดี่ยวเกินไปและ เก็บบอลไม่ค่อยได้เพราะโดนคู่เซ็นเตอร์อย่างหลุยส์ เปเรียและจอห์นนี่ ไฮติงก้ารุมกินโต๊ะดักทางได้ตลอด และจังหวะที่ควรจะเปลี่ยนสกอร์ให้ทีมได้ 2-3 ครั้งในเกมนี้ก็ดันไม่คมพออีก

อย่างไรก็ดีสิ่งนึงที่ต้องชมทีมหงส์แดงชุดนี้คือ "ทีมสปิริต" ที่ขยันและไม่เคยยอมแพ้จนวินาทีสุดท้ายและได้รางวัลจากความเพียร พยายามจากจุดโทษปัญหาซึ่งผมถือว่ามาร์ติน แฮนส์สันผู้ตัดสินสินในเกมนี้เป่าผิดพลาดในช็อตสำคัญหลายจังหวะทีเดียว

จังหวะก่อนหน้าที่ผู้เล่นแอต.มาดริดแฮนด์บอลในเขตโทษเห็น ๆ ซึ่งควรเป่าก็ดันพลาดมองไม่เห็น แต่จังหวะที่เข้าปะทะกันของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและมาเรียโน่ เปร์เนียในจังหวะแบบ 50-50 ช่วงทดเวลานาทีสุดท้ายกลับเป่าให้เป็นจุดโทษหน้าตาเฉย!

ครับผู้เล่นแอต.มาดริดก็คงรู้อยู่เต็มอกว่าก่อนหน้านี้ตัวเองรอดตัวได้ ประโยชน์ไปแล้วครั้งนึงจึงไม่ได้โวยวายมากหลังเกม และภาพรวมทั้งหมดผลเสมอในนัดนี้ก็ถือว่าแฟร์ดีกับทั้งสองฝ่าย

แต่ไอ้ประเด็นผู้ตัดสินที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเกมฟุตบอลเนี่ยสิครับน่า จะได้รับการแก้ไขให้นำภาพช้ามาช่วยตัดสินได้แล้ว แต่เอ๊ะ หรือว่าองค์กรใหญ่อย่างฟีฟ่าหรือยูฟ่าจะมีส่วนได้เสีย ตรงจุดนี้ก็ไม่รู้นะครับถึงไม่ยอมแก้กฎให้มันโปร่งใสกว่าที่ควรเป็นเสียที...

No comments: