Friday 7 November 2008

อาร์แซน เวนเกอร์...เมื่อนโยบายกลับมาทำร้ายตัวเอง

พิลึกดีครับที่จู่ๆสี่อรหันต์ "บิ๊กโฟร์" ก็พร้อมใจกันไม่ชนะโดยมิได้นัดหมาย ในศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อคืนวันอังคารและพุธที่ผ่านมา... เชลซีฟอร์มในลีกอย่างเทพหยิ่งทะนง เกินไปจึงพ่ายต่อโรม่าที่ความมุ่งมั่นสูงกว่าไป 3-1 ลิเวอร์พูลไม่แพ้อย่างเหลือเชื่อหลังได้จุดโทษ กังขา + ตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งว่าการขาดเฟร์นานโด ตอร์เรสไปเหมือนขาดใจ

ส่วนคู่ดึกวันพุธที่ผ่านมาอาร์เซนอลและ แมนฯยูไนเต็ด ที่ทรงก่อนแข่งดูแล้วเหนือกว่าคู่แข่ง ค่อนข้างเยอะ แต่พอเอาเข้าจริงต่างก็ทำได้แค่เสมอ

อาร์เซนอลอาจดูว่าขาด "เทพีแห่งโชค" ที่โหมบุกตามสไตล์เกือบทั้งเกมแต่โดน "ทีเด็ด" ชายชื่อโวลคาน เดมิเรลนายทวารด่านสุดท้ายของเฟเนอร์บาห์เช่ ซึ่งเกมนี้ผีตุ๊กแกเข้าสิงห์เซฟเหนียวแน่นหนึบ ได้อีกจนช่วงท้ายเกมแข้งปืนโตถึงกับโนไอเดียที่จะเจาะไข่แดงผู้มาเยือน

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของกลุ่ม G นั้นลูกทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ยังถือว่าอุ่นใจได้เมื่อยังคงเป็นจ่าฝูงอยู่แข่ง 4 นัดมี 8 แต้มทิ้งช่องว่างกับทีมอันดับสองอย่างเอฟซี ปอร์โต้อยู่ 2 คะแนน และอีก2นัดที่เหลือ (เจอดินาโม เคียฟและปอร์โต้) ต้องการชนะอีกเพียงนัดเดียวก็จะการันตีการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว
แต่สิ่งนึงที่น่าหนักใจแทนเวนเกอร์และ แฟนอาร์เซนอลก็คือการที่ทีมไม่ชนะมา 3 นัดติดซึ่งแน่นอนว่าตรงนี้จะย่อมส่งผลกับสภาพจิตใจของนักเตะแน่นอน

เกมกับสเปอร์สนำอยู่ 4-2 จนจะจบเกมอยู่แล้วสุดท้ายเสมอไป4-4เพราะแนวรับสมาธิหลุด เกมถัดมาเจอสโต๊คเช่นเคยปัญหาอยู่ที่แนวรับไม่สามารถรับมือกับ "ลูกทุ่มปลิดวิญญาณ" ของรอรี่ ดีแลปได้จึงพ่ายไปแบบช็อกโลก 1-2 โดยจบเกมก็อ้างซ้ายอ้างขวาว่านักเตะ โดนจ้องจะเล่นงานอยู่เรื่อยจนภายหลังกลายเป็น "ประเด็น" ลุกลามใหญ่โต ล่าสุดทำได้แค่เสมอก็อ้างเรื่อง "ความสด" ของนักเตะที่ต้องตรากตรำลงบรรเลงแข้ง 3 เกมในรอบ 7 วัน...

เวนเกอร์กำลังจิตตก? ครับ ผมกำลังมองว่าทัศนคติของขงเบ้งเลือด น้ำหอมช่วงนี้มองอะไรก็ดูเลวร้ายและ "เนกาทีฟ" เกินไปหน่อยเนื่องจากทีมอื่นที่เค้าลงเตะกัน ก็ไม่เห็นจะบ่นอุบอิบเหมือนอาร์เซนอล

เชลซีแพ้ก็จริงแต่สโคลารี่โทษความผิดพลาดนักเตะตัวเอง ราฟา เบนิเตซก็ไม่ได้โวยวายซ้ำยังบอกพอใจกับหนึ่งคะแนน ขณะที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันซ์ช่วงนี้ชิลมากเอ่ยปากชมสปิริต ของลูกทีมที่ไม่ย่อท้อไล่ตีเสมอเซลติกในช่วงท้ายเกมได้

จะเห็นได้ว่าสามบรมกุนซือข้างต้นไม่ได้โทษ "ปัจจัยภายนอก" มากนัก

ขณะที่เวนเกอร์อ้างเรื่องกรรมการไม่แฟร์ กับอาร์เซนอลหรือโปรแกรมเตะถี่ยิบทำให้นักเตะไม่สด ผมเองมองว่าปัญหาเหล่านี้เกิดจากนโยบาย "ปั้นดินให้เป็นดาว" และไม่ยอมเสริมทีมให้พร้อมรับมือกับปัญหา ผู้เล่นบาดเจ็บ+เหนื่อยล้าระหว่างซีซั่น ได้ย้อนกลับมาทำร้ายพวกเค้าเองไม่ใช่หรอ ?

ผมจำได้ว่าบอร์ดบริหาร อาร์เซนอลไม่ได้ห้ามหากอาร์แซน เวนเกอร์จะซื้อนักเตะคุณภาพดี สักคนสองคนมาทำให้ทีมไม่สะดุดยามที่นักเตะ ตัวหลักต้องเจอกับอาการบาดเจ็บซึ่งเป็น เรื่องที่มิอาจหลีกพ้นอยู่แล้วในเกมฟุตบอล

หากแต่เวนเกอร์เองบางทีหัวดื้อและยึด ติดกับนโยบายของตัวเองจนเกินไป ไม่ได้มีความยืดหยุ่นไปตามโลก ฟุตบอลสมัยใหม่ที่หลายครั้งเงินก็พิสูจน์ ให้เห็นว่าสามารถซื้อความสำเร็จ ได้อย่างที่เชลซีแสดงให้เห็นไปแล้ว หรือแมนฯซิตี้กับสเปอร์สก็กำลังพยายามอัพเกรด ตัวเองให้เป็นทีมชั้นนำในลีก

ผมไม่เถียงนะครับว่านโยบายของเวนเกอร์เป็น แนวทางของทำทีมฟุตบอลในอุดมคติของใครหลายคน และจะส่งผลดีให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่ออุตสาหกรรมฟุตบอลถึงคราวต้องพบกับ ภาวะเงินฝืดในระบบที่จะเกิดขึ้นแน่นอนจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาเพิ่มขึ้นทุกวัน

แต่ในช่วงที่บอร์ดยังมีเงินให้ช็อปและ ถ้าอาร์เซนอลต้องการจะประสบความสำเร็จแบบเป็น "รูปธรรม" บ้างไม่ใช่เฉียดไปเฉียดมากับตำแหน่งแชมป์อยู่แบบนี้ เห็นทีเปิดตลาดเดือนมกราคมนี้เวนเกอร์ต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วละครับ

1 comment:

ธานคับ said...

หวัดีดครับคุณ ความฉิบหายของไอ้เน่าคือความสะใจของผม อะไรที่มันล้มเหลว ผมดีใจทั้งนั้นล่ะครับ เอิ๊กๆๆๆๆ