Friday 24 October 2008

Winning Ugly คุณสมบัติที่แชมเปี้ยนต้องมี

เห็นภาพ "กัปตันกระดูกเหล็ก" จอห์น เทอร์รี่กระโดดเขกทำประตูเอฟซี โรม่าได้ในนาที 75 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาส่งเชลซีขึ้นแท่น เป็นจ่าฝูงกลุ่ม A ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่ม แล้วนั่งคิดครับว่าขนาดในเกมที่เต็มไปด้วย ความอึดอัดและน่าที่จะจบลงด้วย ผลเสมอก็ยังอุตส่าห์เก็บ 3 คะแนนได้จนเผลออุทานออกมาว่า...

"อะไรมันจะเฮงขนาดนั้น เล่นไม่ดีก็ยังชนะ" ผมคงอุทานเสียงดังไปหน่อยจนเพื่อน ที่บ้านซึ่งเป็นแฟนเชลซีแอบ ค้อนควับก่อนสวนกลับ "ดีกว่าสเปอร์สคุณละกาน เล่นไม่ดีซ้ำยังไม่มีดวง ฮ่าๆ" มันเดินฉีกยิ้มจากไปแบบสบายอารมณ์ ปล่อยให้ผมนั่งอึ้งกิมกี่งงว่ามันจงเกลียดจงชัง อะไรน้องไก่แช่บ๊วยอะไรนักหนา แค่อิจฉาเสียงดังแค่นี้ทำเป็นเคือง ^^

ครับแม้เกมนี้เชลซีจะไม่ได้เล่นฟุตบอลสไตล์สวยงามอย่างที่หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่คุยเอาไว้ก่อนเกมแต่เชื่อได้ว่าลึกๆ แล้วแฟนบอลเชลซีคงให้อภัยเฮียแกแน่นอนกับชัยชนะแบบ Winning Ugly แบบนี้ เนื่องจากถ้าเกมนี้เอาชนะไม่ได้ขึ้นมาพวกเค้าก็จะมีแค่ 5 คะแนน นำหน้าทีมอันดับสองอย่างคลูจเพียงแค่ 1 คะแนน มากไปกว่านั้นจะส่งผลให้ทีมอันดับสามและสี่อย่าง โรม่าและบอร์กโดซ์ กลับมามีลุ้นเข้ารอบและสิงห์ไฮโซจะหืดขึ้นคอทันที เพราะว่าสามนัดสุดท้ายเป็นเกมที่ต้องออกไปเยือนถึงสองครั้ง

ความแตกต่างของเกมนี้ แทบจะไม่มีให้เห็นเลยนะครับเพราะเกมสูสีกันเกือบทั้ง 90 นาที บางจังหวะทีมเยือนจากโรมที่มีฟรานเชสโก้ ต๊อตตี้ยืนค้ำเป็นหน้าเป้าคนเดียวก็อันตรายน่า ดูเหมือนกันเพราะเก๋าเกมและเซตบอลให้เพื่อนได้สวยๆ หลายครั้ง ซึ่งแท็กติกส์สไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ก็เกือบจะเพียงพอให้ลูกทีมของลูชาโน่ สปัลเล็ตติบุกมาแบ่งแต้มตามเป้าหมายได้ ถ้าเชลซีไม่มีมนุษย์เหล็กที่ชื่อเทอร์รี่อยู่ในสนาม...
บทบาทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่แข็งแกร่งประดุจกำแพงเสริมใยเหล็ก หาข้อผิดพลาดแทบไม่เจอแม้อาการบาดเจ็บ ที่หลังจะทำให้ต้องเข้าโรงหมอเกือบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และพลาดสองเกมคัดบอลโลกกับทีมชาติเมื่อสัปดาห์ก่อน

แต่ความเจ็บปวดของเทอร์รี่จากการพลาดจุดโทษ ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีกที่กรุงมอสโกฤดูกาลก่อนยังคงวนเวียนอยู่ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเทอร์รี่ถึงอยากเล่นให้ดีที่สุดกับเชลซี แรงกายแรงใจที่ทุ่มลงไปนั้นก็เพื่อเติมเต็มความฝัน ในการยืนถือถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีกนั้นเองครับ ผมเชื่ออย่างนั้น

นอกจากนี้บทบาทผู้นำสนามก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เชลซีมีผลงานสุดแจ่ม ขนาดนี้เพราะเทอร์รี่เปรียบเสมือนศูนย์รวมความเชื่อมั่นในยามที่ทีมเจอสภาวะความกดดัน นาย "เจที" นี้แหละครับสามารถทำได้หมดทั้งโชว์ให้เห็นถึงความทุ่มเท 200 % ในสนาม ตะโกนสั่งการกระตุ้นเพื่อนราวกับว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้แล้ว รวมถึงปลดล็อกชัยชนะได้เองด้วยกับการขึ้นมาเติมยิงประตูสำคัญๆ ให้ทีมเหมือนในเกมกับโรม่า
เชื่อได้เลยครับว่าเกมกับลิเวอร์พูลในวันอาทิตย์นี้หากเชลซียังเล่นได้แข็งแกร่ง แบบนี้แม้ตัวผู้เล่นตัวหลักบางรายจะยังเจ็บอยู่ก็ตาม แต่ผมว่าโอกาสที่ทีมหงส์แดงจะบุกมาชนะนั้นโอกาสน้อยเหลือเกินหากราฟาเอล เบนิเตซและขุนพลหงส์แดงไม่ท็อปฟอร์มจริงๆ โอกาสบุกมาชนะถือว่ายากมากครับ

เกมล่าสุดของทีมหงส์แดงในการออกไปเยือนแอตเลติโก มาดริดคงต้องเรียนตามตรงว่าน่าเสียดายมากที่ไม่สามารถเก็บ 3 คะแนน เข้ากระเป๋าได้ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ได้ประตูขึ้นนำเร็วจากร็อบบี้ คีน ซึ่งเกมนี้ไปยืนหน้าเป้าตัวเดียวในเกมที่ราฟาเอล เบนิเตซเลือกที่จะดรอปเดิร์ค เคาท์ไว้ข้างสนามและส่งยอสซี่ เบนายูนลงสนามแทนในตำแหน่งริมเส้นด้านขวา

การขึ้นนำแล้วผ่อนเกมจนน่ากลัว + เล่นถอดตัวสำคัญออกถือเป็นสาเหตุที่ทัพเรดแมชีนเก็บได้แค่หนึ่งคะแนน โอเคการถอดคีนน้อยและชาบี้ อลอนโซ่ออกเพราะมีปัญหาบาดเจ็บจริงถือว่าพอรับได้ แต่การพักกัปตันอย่างสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดออกทั้งที่ไม่มีอาการบาดเจ็บและใส่ไรอัน บาเบิ้ลลงซึ่งเล่นเกมรับไม่ดี มันก็เหมือนกับการที่นักมวยแรงเริ่มอ่อนการ์ดเริ่มตกเดินถอยหนีตีวงอย่างเดียว ไม่มีการปล่อยหมัดไว้แย็บขู่ให้คู่ชกกลัวมันก็ต้องรอโดนหมัดน็อกสถานเดียวละครับ นี้ดีนะที่เกมนี้หงส์แดงไม่แพ้กลับมา ไม่เช่นนั้นแล้วนึกสภาพไม่ออกเลยจริงๆ ว่าราฟาจะโดนสับเละขนาดไหนกับการเปลี่ยนตัวแบบนี้

เอาล่ะครับผมเชื่อว่าแฟนๆ ลิเวอร์พูลยังพอรับได้กับผลเสมอในเกมนี้ เพราะทีมยังอยู่สถานการณ์ที่ไม่เลวเลยเมื่อครองตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่ม D ร่วมกับแอตเลติโก มาดริดอยู่ (มี 7 คะแนนเท่ากัน) โดยเกมหน้าพวกเค้ามีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของขุนพลตราหมีบ้าง คิดว่าทัพหงส์แดงจะเล่นสวยงามหรือไม่แฟนบอลคงไม่ว่าขอแค่เก็บ 3 คะแนน เพื่อการันตีการเข้ารอบต่อไปอย่างที่เชลซีแสดงให้เห็นก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ

No comments: