ดูสเปอร์ส เล่นแล้ว หมดอารมณ์จะอยู่บ้านครับ เลยชวนเพื่อนสาวชาวเกาหลี ‘โจ’ ออกไปเดินเล่นที่ Tower of London เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ช่วงนี้ การท่องเที่ยวของ กรุงลอนดอน เค้าทำ โปรโมชันสุดเก๋ ครับ คือแพ็กเกจ ‘2 For 1’ หรือ ไปสองจ่ายหนึ่ง กับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Madame Tussauds (พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทูสโซ่ว) London Dungeon (บ้านผีสิง) London Aquarium (พิพิธภัณฑ์นธ์สัตว์น้ำ) London Zoo (สวนสัตว์) ฯลฯ รวมทั้ง Tower of London หรือ หอคอยแห่งกรุงลอนดอน ที่อยู่คู่ประเทศอังกฤษมาช้านาน และเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่ นักท่องเที่ยวทุกคน ต้องมาแวะ ถ่ายรูป หากไม่อยากได้ชื่อว่า มาไม่ถึงลอนดอน
ผมเอง ยอมควักเงิน 8 ปอนด์กว่าๆ (ราคาเต็ม 16.90 ปอนด์ แต่หารกับ โจคนละครึ่ง) กับการได้เข้าไปเยี่ยมชม ทาวเวอร์ ออฟ ลอนดอน เนื่องจากส่วนตัวเป็นคนชอบ เดินเที่ยว + หาประสบการณ์ใหม่ๆ จากที่ใหม่ๆ ให้ตัวเอง ได้รู้จัก โลกใบนี้ มากขึ้น เพราะเชื่อว่า เป็นประสบการณ์ชีวิต ที่ใครก็ไม่สามารถมาพรากจากเราได้ : ) สำหรับประวัติ พอสังเขป ของ ทาวเวอร์ ออฟ ลอนดอน นี้ ถือว่าน่ากลัวไม่ใช่เล่น เพราะหลายคนเรียกเจ้าหอคอยแห่งนี้ว่า ‘หอคอยเลือด’ หรือ ‘หอคอยผีสิง’ เนื่องจากมีประวัติ น่าสยดสยอง เกิดขึ้นมากมาย...
เดิมที หอคอยแห่งนี้ ถูกสร้างเป็นป้อมปราการเพื่อ ป้องกันกรุงลอนดอน ของกษัตริย์ วิลเลียม โดยใช้หินขนาดมหึมาสร้าง เพื่อความแข็งแรงและทนทาน โดยขุด คลองไว้รอบปราสาทที่พัก ด้วยเพื่อความปลอดภัย ยากต่อการโจมตี
ต่อมา พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ซึ่งมี มเหสีถึง 6 องค์ ก็สร้างตำนาน สยดสยองไว้เพียบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคุก และหอคอยสำหรับประหารชีวิต ที่ชื่อ (Bloody Tower) สำหรับนักโทษทางการเมือง หรือ ขุนนางกบฏ ที่หวังจะหุบอำนาจ โดย สอง มเหสี ของพระองค์ ก็ถูกประหารชีวิต ด้วย อย่างโหดเหี้ยม
ภายในหอคอย แต่ละจุด ที่ตอนนี้ ได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ เปิดให้เข้าชมก็จะมีคุกใต้ดิน เครื่องมือประหาร ที่ใช้ประหารชีวิตขุนนางดังมากมาย เครื่องทรมาน แบบต่างๆ เรื่องราว ภายในห้องโถงต่างๆ ที่มีคำบรรยายไว้ละเอียดยิบ รวมถึง ชุดเกราะนักรบในสมัยก่อนของอังกฤษ ตราประจำราชวงศ์ เครื่องประดับของเจ้าหญิง โดย ‘ทีเด็ด’ ที่ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยว ได้มากที่สุด น่าจะเป็น เพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งถูกเก็บไว้ที่นี่ด้วย คือมงกุฎพระราชินี อลิซาเบธ 530 กะรัต !! (โชคไม่ดี ที่อดเก็บภาพมาฝาก เจ้าหน้าที่ห้ามถ่ายภาพ)
ผมยังแอบแซวกับโจเลยว่า ‘เราไม่ต้องเรียน + ทำงาน กันแล้วละ ถ้าได้มงกุฎนี้กลับบ้าน’
ประวัติก็ประมาณนี้ ดูรูปประกอบกันต่อ แล้วกันเนอะ...
17 comments:
sure, why not!
very clever.
wow, very special, i like it.
when will you go online?
very clever.
what happened to the other one?
wow, very special, i like it.
its good to know about it? where did you get that information?
very clever.
help me.
i think you add more info about it.
well its nice to know that you have great hits here.
very cool.
i think you add more info about it.
when will you go online?
very cool.
haha.
Post a Comment