Tuesday 2 December 2008

เป็นแชมป์/ตกชั้นปีนี้...เบียดกันมันหยด

ฝนเบา ๆ ปนอารมณ์หนาว ๆ ของเช้าวันอาทิตย์ที่ ผ่านมานอกจาก จะทำให้ผมไม่อยาก จะแหกขี้ตาออกจาก บ้านไปไหนแล้ว ยังมี "ข่าวร้าย" ที่ทำให้ผมต้องหงุดหงิด หัวใจเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อ ได้ทราบก่อนเกม เพียงแค่สี่ชั่วโมงว่า เกมเชลซี VS อาร์เซนอลต้องอดดู

อะจ๊าก!...นี้ถือเป็นครั้งที่สองในฤดูกาลแล้วครับที่ผมโดน Press Office ของทางเชลซีบอกปฏิเสธ
จริง ๆ ก็ไม่ได้อยาก อารมณ์เสียแต่เช้าหรอกนะฮะหากได้รู้ตัวก่อน แต่นี่อะไรโทร.ไปตั้งแต่เที่ยงวันศุกร์ต่อด้วย วันเสาร์เกือบทั้งวันแต่ก็ไม่มี He หรือ She ที่ไหนรับสายผมเลย ไอ้ครั้นจะให้เสี่ยงทนหนาวตรงดิ่งไป ถามถึงสนามก็กลัวหน้าแหกแบบคราวก่อน ครั้งนี้จึงโทร.เข้าสนามแล้วโอเปอเรเตอร์ต่อสายตรง เข้าไปถามให้รู้เรื่องจนได้ความอย่างที่เล่าไป แถมยังโดนกัดอีกนะว่ามาโทร.อะไรเอาป่านนี้! (แหม คนเราช่างกล้าแถไปเรื่อยไม่ดูตัวเองเลยว่าอยู่ออฟฟิศบ้างอ่ะป่าว) ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรคืนหรอกนะครับ แบบว่าเป็นปัญญาชนที่ไม่ชอบต่อล้อต่อเถียงกะใคร ก็แค่เกมที่ผ่านมาแอบแช่งให้พวกเค้ามีอันต้อง พ่ายแพ้คาบ้านต่อปืนโต แถมดันได้ผลด้วยสิ ! (อันนี้ไม่ได้โม้นะฮะแต่มันบังเอิญจริงๆ อิอิ)

เข้าเรื่องกันดีกว่าฟุตบอลอังกฤษ ช่วงนี้ถือว่าเป็นไปอย่างเข้มข้น ดุเดือดจริง ๆ ทั้งในกลุ่มของทีมหัวตารางและ โซนตกชั้น ที่บี้กันมันส์พะยะค่ะ

ไฮไลต์วันเสาร์ที่น่าสนใจ ก็คือคู่ของซันเดอร์แลนด์เปิดบ้าน รับการมาเยือนของโบลตันที่สนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ที่แฟนบอลในสนามเท่าที่ดูด้วยตาเปล่าถือ ว่าโหรงเหรงไปพอสมควรเนื่องจาก ผลงานช่วงหลังของทีมไม่ค่อยจะได้เรื่อง แถมการถ่ายทอดสดที่เดี๋ยวนี้กระจายไป ทั่วทุกมุมโลกตามทฤษฎีของ Globalisation+เศรษฐกิจที่นี่กำลังตกสะเก็ดอย่างหนัก ทำให้ทีมเล็กๆที่ไม่ได้มีความน่าดึงดูดใจอย่าง "แมวดำ" และทีมเล็กหลายรายนับ จากนี้เตรียมเผชิญปัญหานี้กันได้เลย

ซันเดอร์แลนด์นั้นเหมือนจะมาดีในเกมนี้เมื่อเป็น ฝ่ายออกนำไปตั้งแต่ไก่โห่จากฌิบริล ซิสเซ่ในนาทีที่ 11 แต่นับจากนั้นแนวรับอันอ่อนปวกเปียกยิ่งกว่า ทิชชู่ชุ่มน้ำก็เริ่มออกอาการเป๋ให้เห็นหลายต่อ หลายจังหวะทีเดียว...ผลลัพธ์ก็คือพวกเค้า โดนลงโทษอย่างสาสมจาก 4 ประตูรวดของโบลตัน ซึ่งได้ถีบให้พวกเค้าลงไปกองอยู่อันดับ 18 ท่ามกลางความหวั่นใจจากหลายฝ่ายว่ารอย คีนจะถอดใจไขก็อกลาออกไป หลังได้ยินคอมเมนต์แบบปลงโลก จากปากของอดีตมิดฟิลด์ฮาร์ดคอร์คนนี้

ผมเองโดยส่วนตัวชอบบุคลิกของคีน สมัยยังเป็นนักเตะมากนะครับเพราะ ความเป็นผู้นำและสปิริตอันแรงกล้าที่เจิดจ้าเหลือเกิน นำพาแมนฯยูไนเต็ดประสบความสำเร็จ มาสู่ทีมมากมายนำไม่ถ้วน แต่เรื่องแปลกแต่จริงก็คือคีโน่กลับไม่สามารถ นำคาแรกเตอร์เหล่านี้ถ่ายทอดไป ถึงแข้งแมวดำได้เลยสักคนเดียว ตรงจุดนี้ถือว่าน่าคิดมากๆว่าทำไมและเพราะอะไร ?

เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ "ผลการแข่งขัน" ซึ่งถือเป็นตัววัดความสามารถของกุนซือ ถ้าถามถึงตรงนี้ผมว่าการที่ซันเดอร์แลนด์ใช้จ่ายเงินไปเยอะมาก ในช่วงสองปีหลังและ ทำผลงานได้เพียงเท่านี้ถือว่าสอบตกอย่างแรง จึงน่าติดตามเหลือเกินครับว่าอนาคต ของคีนกับทีมแมวดำจะจบลงอย่างไรหากว่าผลงานยังตกต่ำอยู่แบบนี้ คีนจะโชว์แมนลาออกเองหรือว่าหน้าด้านหน้าทนรอให้สโมสรปลดออกไป (อันนี้ผมเดาว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่าหากดูจากอุปนิสัยของเจ้าตัว)

ขณะที่เกมวันอาทิตย์คู่แรกแมนฯซิตี้เปิดบ้าน รับการมาเยือน ของอริร่วมเมืองอย่างแมนฯยูไนเต็ด ผลลัพธ์ที่ออกมาว่า เจ้าบ้านโดนสอยไปคารัง 1-0 นั้นถือว่าแฟร์ดีแล้วเพราะ ซิตี้อย่างที่ผมเรียนมาตลอดว่า "รุกแจ่มหลังรั่ว" จึงต้องโดนทีมผีแดงที่เล่นได้ดี+คู่ควรกับ สามคะแนน ในเกมนี้มากกว่าสอนบอลไป เปิดตลาดเดือนมกราคมนี้เห็นทีมาร์ค ฮิวจ์สจะเล็งเฉพาะ นักเตะในแนวรุก อย่างที่ตกเป็นข่าวรายวันอย่างเดียวไม่ได้ครับ เพราะเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ มีระดับและกลางรับดีๆอย่างละคนน่าจะ ช่วยให้ผลงานหลังบ้าน ของทีมดูหนาแน่นกว่าที่เป็นอยู่

ส่วนคู่ดึกอย่างเชลซี VS อาร์เซนอลที่ผมหน้าแหก ไปฟันธงว่าสุดท้าย น่าจะเป็นสิงห์บลูอาศัยความเป็นเจ้าบ้านเอาเฉือนเอาชนะไปได้ ปรากฏว่ามองผิดไปถนัดเนื่องจากดันลืมนึกไป ว่าฟอร์มสุดแกร่งในบ้านของเชลซีช่วงหลัง ๆ ไม่ได้ยืนยงคงกระพันอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งประวัติการเล่นกับบิ๊กทีมด้วยกันทีไรมักจะเป็นเชลซีเรื่อยมาที่ "บ้อท่า" พลาดเองตลอด (ก่อนหน้านี้ก็โดนหงส์แดงบุกมาปราบ1-0)

เกมนี้ก็เช่นกันครับอุตส่าห์ออกสตาร์ตเกมได้ดีกว่าและตึงสกอร์ไลน์นำอยู่หนึ่งลูกในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังดันหมดมุขจะเข้าทำเหมือนเคยแถมแนวรับช่วงนี้ที่จำต้องใช้บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (ริกกี้ คาร์วัลโญ่&อเล็กซ์เจ็บ) ยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กคู่จอห์น เทอร์รี่ดูจะไม่ค่อย "คลิก" เพราะมองตาแต่ดันไม่รู้ใจยืน Marking ผิดคนตลอดจึงโดนทีเด็ดฟาน เพอร์ซีซัดเบิ้ลไป 2 ตุงรวดภายในเวลาห่างไม่ถึงสี่นาที "ตอกย้ำ" ปัญหาความมั่นใจยามลงเล่นในบ้านตัวเองพร้อมเผย "จุดอ่อน" ให้ทีมอื่นได้เห็นกันบ้างแล้วหลัง ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายรวมทั้งตัวผมเองมองเห็น แต่ความไร้เทียมทานของทีมชุดนี้

ส่วน Unpredictable อาร์เซนอลที่ฟอร์มสามวันดีสี่วันร้าย ชัยชนะในนัดนี้ทำให้ต่อลมหายใจ การชิงแชมป์ต่อไปได้อีกเฮือกแต่ก็นะ...อย่างที่รู้ ๆ กันครับว่าทีมปืนโตมักจะชนะในวันที่หลายคนมองว่าพวกเค้าแพ้แน่ แต่เกมที่สามแต้มเห็น ๆ ดันปล่อยให้โอกาสหลุดมือ ตรงนี้อยู่ที่ "กึ๋น" ของเวนเกอร์แล้วละครับว่าจะทำให้ฟอร์ม ของทีมมีความสม่ำเสมอได้มากกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ ลึกๆผมเชื่อครับว่า "ศักยภาพ" แข้งยังกันส์ชุดนี้มีดีพอแน่นอนเพราะปราบทั้งผีแดงและสิงห์ไฮโซให้เห็นกันแล้ว

ครับ ขณะที่เขียนงานชิ้นนี้อยู่คู่ Monday night อย่างลิเวอร์พูล VS เวสต์แฮมยังไม่เริ่มเตะ แต่คาดว่าทัพเรด แมชีนไม่น่าจะปล่อยให้โอกาสการขอขึ้นไปยืนแบบเดี่ยวๆบนหัวตารางต้องหลุดลอยไป (ป่านนี้คงทราบผลกันแล้วว่าน้องหงส์จะทำได้มั้ย) ถ้าทำได้การลุ้นแชมป์ปีนี้สนุกเข้มข้นแน่นอน เพราะสิงห์บลูฟอร์มโดยรวมกำลังวูบโดยเฉพาะการลงเล่น ในบ้านขณะที่ผีแดงและปืนโตก็กำลังไต่อันดับ ขึ้นมาทำคะแนนกดดันได้อยู่เป็นระยะๆ

ส่วนโซนตกชั้นก็เช่นกันกำลังมันเลยทีเดียวนี่ล่าสุด น้องไก่ของลุงจ่าแฮร์รี่ก็เสียซิงสถิติใน บ้านต่อ เอฟเวอร์ตันไปแล้ว ทำให้คะแนนยังแช่อยู่ที่ 15 แต้มเท่ากับนิวคาสเซิลและซันเดอร์แลนด์ (อันดับ 17 และ 18 ) และมีแต้มเหนือเวสต์บรอมวิชทีมบ๊วยเค็มอยู่แค่ 4 คะแนนเท่านั้น !

งานนี้ดูไม่ออกจริง ๆ ว่าสุดท้ายแล้ว ทีมใดจะเป็นแชมเปี้ยนและ ทีมใดจะมีอันต้องร่วงตกชั้น ยิ่งดูยิ่งมันจริง ๆ ครับพรีเมียร์ชิพปีนี้

1 comment:

Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ สำหรับบทความดีๆ