Tuesday 9 December 2008

นิราศอัพตัน ปาร์ค

สองอาทิตย์นับจากนี้คอลัมน์ Viva Londonของผมอาจจะหายหัวไปบ้างนะครับเนื่องจาก‘งานเข้า’ช่วงเบจเพศอยู่ดีๆก็มีเกณฑ์ต้องย้ายที่อยู่แบบสายฟ้าแลบเลยต้องตระเวนดูบ้าน + เรียนไปด้วยทำให้มาพบกันได้แค่3วันในช่วงนี้

อย่างไรก็ดี...คิดว่าอีกไม่นานครับทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง: )

วันจันทร์ที่ผ่านมาชีพจนลงเท้าหนุ่มหัวฟูอย่างผมอีกครั้งเพราะได้เดินทางไปดูทีมโปรดอย่างน้องไก่เตะกับขุนค้อนเวสต์แฮมที่ย่าน East Londonบรรยากาศก่อนเกมนี้จะเริ่มนั้นแฟนเวสต์แฮมรวมตัวกัน ‘บิ๊ว’อารมณ์ให้พลุพล่านรอบดึกด้วยการตักสุราส่งเสียงร้องเพลงเชียร์ ‘I’m forever blowing bubble’กันลั่นผับThe Queensสถานที่เชียร์บอลสำหรับแฟนเวสต์แฮมรุ่นเดอะที่ขืนเด็กไก่อย่างผมสะเออะใส่เสื้อทีมตราไก่เข้าไปละก็มีหวังได้รับประทานยำปลาTeenฟรีแน่ ^^

ไม่เฉพาะบรรยากาศนอกสนามหรอกนะครับที่มาคุและดุเดือดเลือดพล่านทว่าในสนามดีกรีความร้อนแรงของลอนดอนดาร์บี้แมตช์ครั้งนี้ก็สูงปรี๊ดและได้อารมณ์การเชียร์บอลไม่แพ้ครั้งที่ผมไปชมเกมอาร์เซนอล VS สเปอร์สที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมเมื่อเดือนก่อนเลยละ

ส่วนผลการแข่งขันอย่างที่คงทราบกันไปได้2วันแล้วว่าทีมตราไก่เป็นฝ่ายบุกไปยัดเหยียดความปราชัยให้ทีมของจิอันฟรังโก้ โซล่าได้ถึงอัพตัน ปาร์ค 2-0ทั้งที่สัปดาห์ก่อนเวสต์แฮมพึ่งจะหักปากกาเซียนทุกสำนักด้วยการยันเสมอลิเวอร์พูลได้0-0แถมเล่นได้อย่างไม่เป็นรองเท่าไรด้วย ก่อนเกมนี้แฟนบอลรวมทั้ง ‘สื่อ’อย่างผมจึงประเมินทีมขุนค้อนไว้ค่อนข้างสูงและไม่คิดว่าพวกเค้าจะหมดฟอร์มได้ขนาดนี้ในวันที่ ‘โมเมนตัม’น่าจะอยู่ที่เจ้าบ้านมากกว่าทีมเยือน (เกมก่อนสเปอร์สพึ่งโดนพลพรรคเอฟเวอร์โตเนี่ยนบุกมาสอยคาบ้าน 0-1)
โอกาสในครึ่งแรกของทั้งสองทีมถือว่าสูสีและบี้กันได้ค่อนข้างสนุกครับ เจ้าบ้านมีโอกาสสองจังหวะที่หวังผลได้จากเคร็ก เบลามี่แต่ทว่าหอกตีนจรวดไม่เน้นพอยิงหลุดกรอบออกไปหมดขณะที่สเปอร์สได้ลุ้นเหมือนกันจากเดวิด เบนท์ลีย์ (ซึ่งเงียบเหลือเกินในเกมนี้) ฮาฟวอลเลย์เต็มเท้าโดน ‘นายเขียว’ ร็อบ กรีนโชว์ความไวพุ่งปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อครึ่งแรกไข่จึงยังไม่แตกเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเป็นลูกทีมของแฮร์รี่ เรดแนปป์ครับที่เล่นได้แน่นอนและดูมีจินตนาการในเกมรุกมากกว่าโดยเฉพาะระบบ 4-4-1-1ซึ่งเอื้อให้บทบาท ‘เพลย์เมคเกอร์’ของลูก้า โมดริชดูมีประโยชน์ต่อทีม+และค่อยดูคุ้มค่าตัวขึ้นมาหน่อยหลังในยุคของฆวนเด้ รามอสกองกลางโครแอตรายนี้ต้องเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ต้องคอยช่วยวิ่งไล่บอลซึ่งจำกัดทั้งพรสวรรค์เจ้าตัวและถือว่าเสียดายของอย่างแรง !

เกมนี้หากไม่นับMan of the matchเลดลีย์ คิงที่ยิงประตูแรกในรอบสามปีได้ก็มีโมดริชและนายทวารฮูเรลโญ่ โกเมสนี่แหละครับที่ผมว่าสมควรได้รับตำแหน่งคู่กันเพราะรายแรกนั้นทั้งพลิ้วและโชว์คลาสนักเตะมีระดับออกมาให้เห็นอยู่เป็นระยะๆส่วนนายทวารหูกางเลือดแซมบ้าก็เล่นอย่างมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่เสียผู้เสียคนไปพักใหญ่ก่อนหน้านี้

ช่วงที่สเปอร์สนำอยู่1-0และกำลังโดนบี้อย่างหนักจากเจ้าบ้าน...ในใจผมเริ่มตุ้มๆต่อมๆเสียวสันหลังวาบกลัวทีมรักจะเสียประตูยิ่งเจ้าอัตซู-เอก็อตโต้ดันไปแฮนด์บอลแต่เดชะบุญจังหวะคริส ฟอยมองไม่ทัน (ไม่อย่างนั้นโดนจุดโทษแน่) เวสต์แฮมก็ได้โอกาสสองครั้งที่ ‘จะแจ้ง’และน่าจะเป็นประตูอย่างที่สุดจากโอกาสของลูคัส นีลล์และดาวิด ดิ มิเคเล่ในสองจังหวะต่อเนื่องที่โกเมสโชว์ให้เห็นว่าไอ้ฉายา‘นายทวารมือปลาหมึก’ที่ได้มาจากสมัยเล่นในลีกบราซิลนั้นไม่ใช่คำยกยอที่เกินกว่าเหตุสักเท่าไร

ก็อย่างที่ผมเคยเรียนไปในคอลัมน์นะครับว่าแม้ในช่วงที่แฟนบอลทีมอื่น (รวมถึงแฟนสเปอร์สเอง) จะเห็นโกเมสเป็นตัวตลกแต่ผมยืนยันมาตลอดว่าด้วยฝีไม้ลายมือที่ผมได้อ่านประวัติเจ้าตัวมาและเห็นฟอร์มเก่าๆสมัยที่คุมพีเอสวีหมอนี้มีคุณสมบัติที่จะเป็นนายทวารผู้ยิ่งใหญ่ได้เพราะทั้งใหญ่ ยาว (อย่าคิดลึก!!) เซฟจุดโทษดีแถมขว้างบอลได้ไกลกว่าเตะอีกตังหากไม่เชื่อลองสังเกตุดู กลับมาที่จังหวะที่เวสต์แฮมน่าจะตีเสมอได้กันต่อ พอยิงไม่ได้เสร็จก็แย่สิทีนี้โดนสเปอร์สCounter Attackสวนกลับและเป็นเจ้าหนูเจมี่ โอฮาร่าซูเปอร์ซับเลือดเดือดยิงไกลจากระยะ20หลาเสียบมุมตอกย้ำชัยชนะให้ทีมเยือนตอกฝาโลงคู่ปรับกรุงลอนดอนได้สำเร็จแฟนเวสต์แฮมที่ ‘บิ๊ว’สุรากันมาถึงกับหน้าสร่างเมากันเป็นแถบๆด้วยจรรยาบรรณนักข่าวที่ควรเป็นกลางจึงทำให้ผมทำได้แค่แอบยิ้มกริ่มอยู่คนเดียวแบบซะใจแต่แบบทำไรไม่ได้มากกลัวโดนตื้บ ฮา

เกมจบลงไปเวลาประมาณเกือบสี่ทุ่มเวลาอังกฤษครับ จากตอนแรกตั้งใจว่าจะดิ่งรถไฟสายหวานเย็น (District Line เส้นสีเขียว) กลับบ้านเลยเนื่องจากต้องเผื่อเวลาไว้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงขากลับแต่ด้วยอารมณ์หิวจึงวกกลับเข้าไปใน Press room หาของกินแบบไม่เสียเงิน (จริงๆแอบงก ^^) ระหว่างที่จ้วงแซนด์วิชอยู่นั้นก็เห็นตาแก่คนนึงหน้าง่วงๆเดินผ่านหน้าไป...

‘อ้าว เฮ้ยนี่มันลุงจ่าแฮร์รี่เดินมาให้สัมภาษณ์นี่หว่า !’ ผมพูดคนเดียวในใจพลางวางน้ำและแซนด์วิชที่เหลือไปนั่งฟังแกให้สัมภาษณ์ซะเลย

ความเห็นผมหลังจากฟัง‘ลุงจ่า’ แกให้สัมภาษณ์ยอมรับเลยว่าแกเป็นคนที่เก๋า เจนจัด +ฉลาดมากเพราะมีลูกอ้อนที่แฟนเวสต์แฮมได้ยินแล้วคงโกรธและเกลียดแกไม่ลงเพราะกุนซือพ่อบังเกิดเกล้าของเจมี่ เรดแนปป์บอกว่าทุกวันนี้ยังตามเชียร์เวสต์แฮมอยู่เสมอ (แต่แฟนจะรู้มั้ยครับว่าทุกครั้งที่แกกลับมาในฐานะกุนซือคู่ปรับจะพาทีมปราบเวสต์แฮมได้ทุกครั้ง!) พร้อมกันนี้ยังได้ออกมาพูดถึงเลดลีย์ คิงปราการเหล็กของทีมว่าเป็นนักบอลที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และเป็นผู้นำของสโมสรอย่างแท้จริงแต่โชคร้ายเหลือเกินที่เจ้าตัวต้องมาประสบกับปัญหาเจ็บเข่าเรื้อรังตามรังควานมาตลอดช่วงหลังๆ ส่วนพาร์ทที่ผมฟังแล้วอึ้งไปเลยก็คือคิงลงซ้อมกับทีมแค่ 15นาทีเท่านั้นหนึ่งวันก่อนเตะเนื่องจากซ้อมๆแล้วเข่าบวมแต่ทว่าวันแข่งคิงเดินมาขอเล่นในเกมนี้เนื่องจากเจ้าตัวห่วงฟอร์มในลีกของทีมซึ่งตอนนี้ถือว่ายังอยู่ในช่วงดิ้นรนหนีการตกชั้นอยู่

ด้วยวัยเพียงแค่28ปีผมไม่รู้หรอกนะครับคิงจะฝืนลงเตะแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน...รู้แต่เพียงว่านักเตะคนนี้ถือเป็นนักสู้คนนึงที่แฟนบอลรุ่นหลังควรยึดไว้เป็น Role model ทำทุกอย่างด้วยใจแม้เข่าจะปวดแทบตาบก็ยอมแบบนี้ หาแทบไม่มีแล้วละครับนักกีฬาสปิริตสูงแบบนี้ King by name and by natureจริงๆผมขอนับถือ



6 comments:

inkduie said...

ผมว่า โมดริชเป็นเพชรเม็ดงามที่เราได้มาเลยนะครับ แต่ไม่รู้จะอยู่กับทีมได้อีกนานเท่าไร กลัวว่าจะต้องเสียโมดริชไปเฮ้อ!!!

เอก อุดมสุข said...

หวัดดีครับคุณ Inkduie

เคสของโมดริชผมว่าอยู่ที่ผลงานทีมเราครับ ถ้าผลงานยังดีวันดีขึ้นแบบนี้และได้ลุ้นทำอันดับไป UCLเมื่อไร โอกาสที่เจ้าตัวจะอยู่เป็นกำลังหลักให้ทีมต่อก็พอมี เพราะเจ้าตัวอายุยังไม่เยอะเหมือนในรายเบอร์บาและคีนน้อยที๋โหยหาถ้วยรางวัลจนตัวสั่น !

Konijiwa said...

สวัสดีครับคุณเอก เข้ามาทักทายครับ

ว่าจะส่ง Q/A ให้คุณเอกละ แต่สถานการณ์ทีมเราเปลี่ยนไปเรื่อยเลย ผมต้องร่างใหม่ อีกอย่างช่วงนี้ งานเข้าพอกันเลย เดียวผมร่างเสร้จ ไม่รู้เมื่อไหร่ จะส่งคำถามให้คุณเอกนะคับ คงยังไม่ลืมนะคับ หุๆ

ปล คืนนี้เจอแมนยูขอเหอะ สามแต้ม ไม่ต้องได้แชมป์ไร แต่ชนะแมนยูผมยัง พอใจเลย 55+

เอก อุดมสุข said...

สวัสดีครับคุณเป้า

เรื่อง Q&Aจำได้ครับ ว่างเมื่อไรก็ส่งมาได้เลย :)

เกมกับแมนฯยูฯ ได้หนึ่งคะแนนผมพอใจแล้วละครับ ฮาๆ

Anonymous said...

ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ