Sunday 28 December 2008

Boxing Day at ‘The Lane’

"วันบ็อกซิ่ง เดย์" (26ธันวาคม) อาจจะเป็นแค่วันเปิดกล่อง ของขวัญอยู่กับบ้านสำหรับชาวอังกฤษ ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้คลั่งไคล้ หรือหลงใหล ในเกมลูกหนัง...แต่ก็มีอิงลิชชนอีก จำนวนไม่น้อย ทีเดียวครับ ที่ใช้โอกาสนี้ออกจากบ้านพาครอบครัว ไปชมเกมฟุตบอลที่พวกเค้า ติดตามเชียร์กันพร้อมหน้า พร้อมตาหลังจากใช้เวลาทั้งวัน อยู่กับบ้านในวันคริสต์มาส (25 ธันวาคม)

แฮร์รี่ เรดแนปป์กุนซือสเปอร์สก็เป็นอีกคนที่ได้คอมเมนต์ถึง วันพิเศษนี้ไว้ใน หนังสือโปรแกรมคู่สเปอร์ส VS ฟูแล่มที่ผมไปชมเกมมาว่า "Boxing Day is a traditional and something that fans always enjoy. It is a big day for the family."

บรรยากาศรอบๆสนามไวท์ฮาร์ท เลนเกมนี้บอกความพิเศษ ของเกมบ็อกซิ่งเดย์ได้เป็นอย่างดีครับ เพราะแฟนบอลทั้งของท็อตแน่มและ ฟูแล่มซึ่งส่วนใหญ่ก็อาศัยอยู่ใน ลอนดอนต่างก็เดินทางมาชมเกมกันจน ความจุของสนาม36,000ที่นั่งแทบ ไม่มีที่ว่างให้เห็น+อุณหภูมิของเกมแม้จะเดือดพล่านเท่าคู่ปืนโต VS ตราไก่ที่ผมเคยไปชมมาไม่ได้แต่ศักดิ์ศรีของ London Derby Game อย่างที่รู้กันอยู่ครับไม่ว่าใครเจอใครก็สนุกและ ตื่นเต้นกว่าเกมพรีเมียร์ฯธรรมดาแน่นอน

แม้ว่าสุดท้ายเกมนี้จะจบลงแบบไข่ไม่แตกก็ตาม!
11ผู้เล่นของทั้งสองทีมเกมนี้ถือว่าเต็ม สตรีมจัดตัวหลักลงสนาม ทุกคนโดยทีมตราไก่เจ้าบ้านยังใช้ระบบ 4-5-1 มี "สากพันล้าน" ดาร์เรน เบนท์ยืนเป็นหอกเป้า ตัวเดียวโดยเรดแนปป์จัดลูก้า โมดริชที่ยิงมาสองเกมติดเป็น มิดฟิลด์ตัวรุกลงบัญชาการเกมใน สนามขณะที่ฟูแล่มขาดแค่เบรเด้ ฮันเกลันด์ปราการหลังตัวแกร่งนอก นั้นฟิตลงสนามทุกคน

สเปอร์สออกสตาร์ตเกมได้ค่อนข้าง ดีครับโดยเฉพาะกองกลางที่มีโซโกร่า-ฮัลเดิลสตัน-โมดริชยืนดูลงตัวและคุมเกมช่วง 20นาทีแรกไว้ในมือได้ทั้งหมดจนกระทั่งทอม ฮัลเดิลสตันเจ็บและคนที่ลงมาแทนคือเจอร์เมน จีนัสที่แฟนบอลไก่ทั้งไทย&เทศเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว เพราะลงมาไม่ค่อยจะมีคุณประโยชน์ต่อทีมสักเท่าไรแถมเกมนี้เพื่อนเค้าเล่นกันอยู่ดีๆ พอตัวเองได้บอลกลับจ่ายพลาดง่ายๆทำเอาทีมเสียเสียจังหวะไปไม่น้อยเหมือนกัน

ดาวเด่นของสเปอร์สในเกมนี้ผมยกให้ อัตซู-เอก็อตโต้ที่วันนี้มาด้วยทรงผมแอฟโร่บาดตาแต่ขัดใจแม่ยกเล่นเกมรุกและรับได้อย่างโดดเด่นไฉไล มากโดยวิงแบ็กหมอผีวิ่งเติมเกมริมเส้นทางฝั่งซ้ายได้สวยๆหลายครั้ง ในนาทีที่30เปิดบอลเข้ามาให้แอร่อน เลนน่อนวิ่งมาซัดเต็มเท้าบอลจะเสียบมุมอยู่แล้วแต่มาร์ก ชวาร์เซอร์ประตูเจ้าสัวเซฟได้อย่างเหลือเชื่อจนฝรั่งนักข่าวข้างหลังผมถึงกับอุทาน "What a Save what a save" ซ้ำไปซ้ำมาจนผมแอบรำคาญว่าจะตื่นเต้นอะไรนักหนา ^^

ก่อนจบครึ่งแรกฟูแล่มที่วันนี้ยืน มาแพ็กหลังกันแน่นบุกได้เสียวบ้างเมื่อคลินท์ เดมป์ซี่กระโดดโอเวอร์เฮดคิกแต่ฮูเรลโญ่ โกเมสที่ท้ายเกม "ลุงจ่า" ถึงกับออกปากชมว่าเริ่มคุ้มค่า ตัวกระโดดเซฟได้สวยไม่น้อยหน้าชวาร์เซอร์เช่นกัน


ครึ่งเวลาหลังยังเป็นสเปอร์สที่บุกกดดันได้ตลอดแต่ฟูแล่มที่เกมเยือน4นัดหลัง (รวมแมตช์นี้เข้าไปด้วย) เสมอรวด0-0บ่งบอกความเป็น "ทีมจอมอุด" และปรัชญาการทำทีมของรอย ฮอดจ์สันได้เป็นอย่างดีสุดท้ายแม้จะมีจังหวะเสียวๆ กันอีกแต่ทั้งสองทีมก็ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0-0 โดยสเปอร์สอันดับยังน่าเป็นห่วงอยู่ที่16แต่คะแนนเท่ากับสโต๊คทีมอันดับ18 + ปัญหาความเฉียบคมในแนวรุก (Cutting Edge) ยิงไม่ได้ในเกมลีกที่ไวท์ฮาร์ท เลนมา3นัดติดแล้ว (แพ้เอฟเวอร์ตัน0-1, เสมอแมนฯยูฯ0-0 และเสมอฟูแล่ม0-0)

ส่วนข่าวคราวความเคลื่อนไหวของสเปอร์สในตลาดนักเตะนาทีนี้ชื่อของเคร็ก เบลลามี่ดูจะมาแรงแซงทางโค้งมากที่สุดแม้ว่าข้อเสนอ6ล้านปอนด์ที่ยื่นให้เวสต์แฮมจะถูกปฏิเสธไปแล้ว...

แต่ผมเชื่ออยู่ลึกๆครับว่าหากสเปอร์สกล้าจ่ายเพิ่มเป็น7.5ล้านปอนด์ซึ่งเป็นราคาเดียวกับที่ทีมขุนค้อนไปสอยมาจากลิเวอร์พูล โอกาสที่ทีมตราไก่จะคว้าหัวหอกความเร็วสูงเลือดเวลส์มาเสริมทีมก็มีไม่น้อยเช่นกันเนื่องจาก "เดอะ แฮมเมอร์" สถานะด้านการเงินอยู่ในช่วงถังแตกและNeed เงินอย่างหนักนั่นเองครับ

No comments: