Wednesday 28 January 2009

ประสบการณ์ช่วยได้!?

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาต้องบอกว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจครับทั้งการซัดประตูชัยในการประเดิมสนามของเอมิล เฮสกีย์พร้อมพาแอสตัน วิลล่าทะยานขึ้นสู่อันดับ3มี47คะแนนเท่าลิเวอร์พูลประกาศศักดาการเป็น ‘ม้ามืด’ ในการชิงแชมป์แบบเต็มตัว, ผลงานอลังการของแมนฯยูไนเต็ดที่ไล่ถล่มเวสต์บรอมฯไป5-0พร้อมสถิติไม่เสียประตูของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์, ทีมที่แข็งแกร่งขึ้นของสเปอร์สหลังการช้อปกระหน่ำของแฮร์รี่ เรดแนปป์ฯลฯ...

ขอเริ่มที่แอสตัน วิลล่าก่อนเพราะอึ้งครับไม่คิดว่าขุนพลของมาร์ติน โอนีลจะทำผลงานได้ดีขนาดนี้ เพราะชื่อชั้นนักเตะบางคนในทีมก็ไม่ได้ดีไปกว่าทีมอย่างเอฟเวอร์ตัน, แมนฯซิตี้หรือสเปอร์ส ทว่าผลงานเรื่อยๆมาเรียงๆของพวกเค้านั้นแข็งแกร่งเกินห้ามใจและการได้เฮสกีย์มาผนึกกำลังกับกาเบรียล อักบอนลาฮอร์ในแดนหน้าถือเป็น ‘อาวุธ’ ที่น่าสะพรึงกลัวเหลือเกินสำหรับกองหลังคู่แข่ง

3.5ล้านปอนด์ที่เสียไปผมเชื่อว่าถูกเหมือนได้ฟรีเพราะคุณภาพและประโยชน์ของเฮสกีย์ก็อย่างที่รู้ว่าเป็นสาเหตุสำคัญเลยละที่ทำให้วีแกนมีผลงานแล่นชิวบหัวตารางอย่างทุกวันนี้จากนี้ไปอยู่ที่ว่านักเตะสิงห์ผงาดจะคงเส้นคงวาในช่วงที่เหลือได้มากน้อยขนาดไหนและสามารถทนแรงเสียดทานในกลุ่มบิ๊กโฟร์ได้ตลอดรอดฝั่งรึเปล่า?

ขณะที่ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซึ่งบุกไปยิงเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนไส้แตกคาสนาม ‘เดอะ ฮอว์ธอร์น’ แนวรุกยังสำแดงผลงานโหดเหี้ยมอำมหิตได้อีกแม้จะขาดเวยน์ รูนี่ย์, นานี่และแอนเดอร์สันไปแต่พวกที่ยังอยู่เช่นเบอร์บาตอฟ เตเบซ โรนัลโด้ กิ๊กส์ คาร์ริค ก็กำลังเล่นได้เข้าฟอร์ม+เข้าขากันมากโดยเฉพาะอดีตเด็กตราไก่อย่างคาร์ริค-เบอร์บามองตาก็รู้ใจคนนึง ‘ชง’คนนึง ‘ยิง’ มาสองเกมติดแล้ว

นอกจากนี้หลังจบเกมแนวรับของพวกเค้ายังได้สร้างสถิติใหม่ขึ้นมาด้วยการไม่เสียประตูในพรีเมียร์ชิพมาเป็นเกมที่11ติดต่อกัน โดยประตูสุดท้ายที่เสียต้องย้อนไปวันที่8พฤษจิกายนปีที่แล้วโน้นเลยในเกมที่ผีแดงปราชัยต่ออาร์เซนอลที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมไป1-2

งานนี้คนที่ได้รับเครดิตไปเต็มๆคือ ‘น้าเอ็ด’ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ผู้รักษาประตูวัย38ปีชาวฮอลแลนด์ที่ทำลายสถิติไม่เสียประตูนานสุดของปีเตอร์ เช็กนายทวารเชลซีลงด้วยเวลา1,032 นาทีหรือ17ชั่วโมงเศษๆ !
แน่นอนครับหากพวกเค้ายังเดินหน้ารักษาคลีนชีตได้ต่อไปแบบนี้เรื่อยๆผมมองไม่เห็นทางเลยที่ลิเวอร์พูลหรือเชลซีจะทำคะแนนปาดหน้าแซงพวกเค้าไปได้ ช่องว่าง3แต้มอาจดูว่าน้อยแต่ผลงานเล่น ‘ดุ’ ได้ขนาดนี้ทีมตามมีหวังไม่สะดุดขาตัวเองไปก่อนก็คงแอบถอดใจกันไปเองบ้างแหละ

สุดท้ายทีมตราไก่สเปอร์สของ‘ลุงจ่า’ แฮร์รี่ เรดแนปป์ที่เปิดตลาดรอบนี้เดินหน้าช้อปนักเตะแหลกไม่น้อยหน้าแมนฯซิตี้เพราะกว้านซื้อมาแล้วทั้งเจอร์เมน เดโฟ, ปาสกัล ชิมบงด้าและคาร์โล คูดิชินี่

นัดที่ผ่านมาเอาชนะสโต๊ค ซิตี้ได้แบบไม่ยากเย็น 3-1 รูปเกมโดยรวมต้องบอกว่าการได้คูดิชินี่และเดโฟมามี ‘อิมแพค’ ต่อทีมทันที รายแรกเป็นประตูมือดี + ประสบการณ์สูงแถมคุ้นเคยกับบอลพรีเมียร์ฯมายาวยาวนาน การได้ ‘ไอ้แมงมุม’ เข้ามาเชื่อว่าจะทำให้การขับเคี่ยวตำแหน่งตัวจริงกับฮูเรลโญ่ โกเสมได้อย่างสนุก
ขณะที่เดโฟเป็นตัวจบสกอร์โดยธรรมชาติและยืนหาตำแหน่งยิงประตูได้ดี การจับคู่กันระหว่างเค้าและโรมัน พาฟลิวเชนโก้น่าจะทำให้ทีมตราไก่มีผลงานที่ดีขึ้นประกอบกับการเริ่มคืนฟอร์มอย่างช้าๆของเดวิด เบนท์ลีย์ปีกขวาเท้าชั่งทองที่โดนเรดแนปป์ติงเรื่องฟอร์มปุ๊บก็เล่นดีปั๊บ...

ครับ เราจะเห็นได้ว่าทีมอย่างแมนฯยูฯ, วิลล่าและสเปอร์สแม้จะออกสตาร์ตได้ไม่แรงอย่างที่แฟนบอลหวังเอาไว้ (โดยเฉพาะทีมผีแดงและไก่เดือยทอง) แต่การที่พวกเค้ามีกุนซือ ‘ชั่วโมงบินสูง’ จึงรู้วิธีเอาตัวรอดในยามที่ทีมเจอช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานได้เสมอ ดังที่เรากำลังจะได้เห็นกันว่าสุดท้ายผีแดงจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ชิพในปีนี้และทีมตราไก่จะจบซีซั่นด้วยอันดับที่สูงกว่าอันดับ10แน่นอน คอนเฟิร์ม!

2 comments:

inkduie said...

ผมว่าน่าจะเป็นเลข 6 นะ อิอิ(หวังสูงไปหรือเปล่า)

เอก อุดมสุข said...

อันดับหกผมว่า...ต้องท็อปฟอร์มกันสุดๆเลยละครับ อิอิ