Wednesday 21 January 2009

เอฟเฟกต์จาก "กาก้า" ถึงแมนฯซิตี้

ในที่สุด "เงิน" วัตถุที่สามารถ "ซื้อ" ได้แทบทุกสิ่งอย่างไม่ว่า จะเป็นเสื้อผ้ายี่ห้อดัง, นาฬิกาแบรนด์เนมหรือตุ๊กตา หน้ารถขาวสวยหมวยอึ๋ม (แต่ไร้สมอง) ก็ต้องแพ้ภัยคนที่ไม่ได้ตก เป็นทาสของมัน...

ริคาร์โด้ กาก้า เพลย์เมกเกอร์หน้าหยก ของเอซี มิลานคือคนคนนั้น ที่ปฏิเสธเงินค่าเหนื่อยกว่า 5 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์ ที่แมนฯซิตี้ของท่านชีคมันซัวร์ประเคนมอบให้อย่างไม่ไยดี

งานนี้แฟนมิลานเฮกันสนั่น แต่แฟน เรือใบคงเฉาเพราะ ถูกหัก หน้า อย่างแรงที่เศษเงินของ บอร์ดอาบูดาบีไม่สามารถ ทำหน้าที่ของมันได้อย่าง มีประสิทธิภาพเหมือน ครั้งก่อนที่ใช้ "จูงจมูก" โรบินโญ่ ซูเปอร์สตาร์จากเรอัล มาดริดมายืน หัวโด่ในถิ่นซิตี้ ออฟแมนเชสเตอร์ได้ อย่างภาคภูมิใจ

กรณีของกาก้าผมเชื่อเหลือเกินว่าสามารถบันทึกเป็น "ตำนาน" อีกบทนึงในวงการฟุตบอลได้เลยเพราะหาไม่ได้ง่ายๆ หรอกครับมนุษย์ปุถุชนที่จะเมินหน้าหนีเงินก้อนโตขนาด นั้นแม้ความจริงที่ว่าแมนฯซิตี้เป็นแค่ทีมไม้ประดับ ในลีกยากจะประสบ ความสำเร็จซักแค่ไหนแต่เสน่ห์ของเงินตรามันหอมหวนยั่วยวนเกินห้ามใจ ฟันธงเลยว่าเป็นนักเตะรายอื่นที่หน้าเงินหน่อยรับรอง "ดีล" นี้ไม่มียืดเยื้อเพราะ "ปีศาจแดงดำ" ต้นสังกัดของนักเตะเปิดไฟเขียวปูพรมแดงแทบจะอัญเชิญรอให้กาก้าย้ายทีมอยู่นานสองนานแล้ว

ส่วนกรณีการทำตัว "ล่องหน" ของโรบินโญ่ด้วย การหนีออกจากแคมป์ฝึกซ้อมของทีมซึ่งกำลัง เก็บตัวอยู่ที่เมืองเตเนริเฟ่ ประเทศสเปน โดยอ้างว่ามีเหตุผลเรื่องครอบครัวเข้ามาเกี่ยว ดูแล้วไม่น่าจะใช่เหตุผลที่แท้จริงของเจ้าตัวหากแต่เกี่ยวข้องกับ ดีลที่ล่มของกาก้ามากกว่า

ออกแนวติสต์แตกเพื่อนรัก ไม่ย้ายมา แสดงอาการไม่มั่นใจในศักยภาพ พลังเงินของสโมสร...อีกหน่อยคาดว่าคง มี "เล่นแง่" หาเรื่องงอแงย้ายทีมอีกตามเคยเพราะโอกาส จะประสบความสำเร็จอย่างที่หวังถึงตอนนี้เจ้าตัวคงรู้อยู่แก่ใจ ว่าแทบจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ นักเตะใหม่ที่ย้ายมาหรือ กำลังตกเป็นข่าวดูๆ แล้วเต็มที่คงเป็นได้แค่สินค้าเกรด B ซึ่งราคาแพงโอเวอร์เกิน ความจำเป็นเหมือนในรายของเวย์น บริดจ์ 12 ล้านปอนด์, เคร็ก เบลลามี่ 14 ล้านปอนด์ และไนเจล เดอ ยอง 18 ล้านปอนด์

การได้ 3 คนข้างต้นมา ใช่ว่าจะทำให้แมนฯซิตี้ กลายสภาพเป็น ทีมเทพติดปีก พร้อมท้าชิง ความยิ่งใหญ่จาก "บิ๊กโฟร์" หรือ ทีมอย่างแอสตัน วิลล่า, เอฟเวอร์ตันได้ง่ายๆซะเมื่อไร และเท่าที่ดูมาร์ค ฮิวจ์ส ก็ยังไม่ใช่กุนซือที่ชื่อชั้นสามารถ "ดึงดูด" นักเตะเวิลด์คลาสมาร่วมโปรเจกต์ยักษ์ ของ กลุ่มนายทุนแขกขาวแน่ๆ

ฉะนั้นการหายตัวไปในครั้งนี้ของโรบินโญ่น่าจะสะท้อนอะไร บางอย่างให้บอร์ดบริหารแมนฯซิตี้เห็น "ทางออก" กันคร่าวๆนะครับว่าการจะเริ่มสังคายนาทีมชุดนี้ให้กลายเป็น สุดยอดของสุดยอดทีม อย่างที่พวกเค้าหวังคงไม่ใช่เริ่มจากการเปลี่ยนแปลง "โละ" นักเตะทั้งกระบิและแทนด้วย ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่างที่พยายามทำกันอยู่

หากแต่ว่าโปรเจกต์นี้จะ Smooth หรือราบรื่น ได้ก็ต่อเมื่อเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือให้เหมาะกับ "บิ๊ก" โปรเจกต์นี้มากกว่าครับ!

No comments: