Thursday 18 September 2008

XL และ AIG สองกรณีศึกษาชั้นดี ที่สโมสรฟุตบอลไม่ควรมองข้าม


พาดหัวข่าวที่ประเทศอังกฤษในเวลานี้ หนีไม่พ้นเรื่องเงินๆ เลยสักฉบับครับ หลังจากล่าสุด เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง บริษัทปล่อยสินเชื่อยักษ์ใหญ่ของอเมริกา ถึงคราวล้มละลายและบริษัทลูกในอังกฤษ ซึ่งมีสาขาอยู่ Canary Wharf (ย่านออฟฟิศและสำนักงานในลอนดอน หากเทียบกับไทยก็ประมาณ สีลม เพลินจิต) ก็พลอยต้องปิดกิจการไปด้วย

ภาพการเก็บข้าวของ สัมภาระ เดินหน้าสลดออกจากออฟฟิศที่หรูหรา และสูงตระหง่านตา...บ้างก็ร้องห่ม ร้องไห้ ยืนกอดกันกลมของพนักงาน เลห์แมน บราเธอร์ส สะเทือนใจผมเป็นอย่างยิ่ง และที่น่าห่วงกว่านั้นก็คือ เศรษกิจโลกในเวลานี้นั้นเริ่มเข้าขั้น "โคม่า" แทบจะเต็มตัวแล้ว
ส่วนสาเหตุหลักอย่างที่ทุกคนน่าจะพอผ่านหูผ่านตา กันมาบ้าง หลักๆก็คือปัญหาที่มาจาก ผู้นำทางเศรษกิจโลกในเวลานี้อย่าง สหรัฐ อเมริกา ตอนนี้ ตลาดเงินของพวกเค้ากำลังเผชิญกับภาวะล่มสลายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

"Credit Crunch" หรือ วิกฤติสินเชื่อในสหรัฐครั้งนี้ ทำให้ สถาบันการเงิน การธนาคาร น้อยใหญ่ ได้รับผลกระทบ และส่งผลเต็มๆกับภาพรวมเศรษกิจโลกไม่มากก็น้อย ตัวอย่างใกล้ตัว ที่คอบอลบ้านเราเห็นชัดเจนที่สุดเพราะเริ่มส่งผลให้เห็นกันเป็น "รูปธรรม" แล้วใน วงการฟุตบอลอังกฤษก็คือ การถอนตัวออกจากการเป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกเสื้อ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ของ XL Holiday บริษัทท่องเที่ยวที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆในอังกฤษ ทั้งที่ เพิ่งเซ็นสัญญา 3 ปี มูลค่า 7.5 ล้านปอนด์ กันไป เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วนี่เอง

นอกจากนี้ AIG บริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ของอเมริกา และเป็นบริษัทแม่ของ AIA บ้านเรา ก็กำลังจะกลายเป็นอดีต สปอนเซอร์หลัก ของ แมนฯยูไนเต็ด เพราะกำลังจะเป็นรายล่าสุดที่โดนประกาศล้มละลาย เช่นกัน

ผมไม่ทราบนะครับว่า ผู้ที่ซื้อประกัน จาก AIA บ้านเราจะได้ถอนตัวทันมั้ย ในเวลานี้ เพราะหากบริษัทแม่อย่าง AIG เจ๊ง และต้องการสภาพคล่องขึ้นมาจริงๆ นั้นก็จะหมายความว่า พวกเค้าจะต้องถอนทุนที่ลงไว้กับ เอไอเอ บ้านเราอย่างไม่ต้องสืบ และ ผู้มีเบี้ยเงินประกันจะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเลยรึเปล่า ผมคงไม่เชี่ยวชาญมากพอ และไม่อยู่ในสถานะที่จะตอบแทนเจ้าของบริษัทได้

แต่สิ่งนึงที่น่าวิตกกังวลและห่วงใยแทนก็คือ ผลกระทบที่มีมาแน่ๆ ต่อเศรษฐกิจประเทศไทยของเรา ที่มีเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด การเมืองก็ยังไม่นิ่ง ยังอาจต้องมาเจอวิกฤติด้านการเงินเข้าให้อีก เฮ้อ T.T

ส่วนผลกระทบที่มีต่อ เวสต์แฮม และ แมนฯยูฯ บอกตรงๆครับว่า ผมไม่ค่อยกังวล เท่าไร เพราะเชื่อได้ว่า ไม่ช้าก็เร็ว พวกเค้าน่าจะได้ สปอนเซอร์รายใหม่มาคาดหน้าอก แน่ๆ เนื่องจากเป็นทีมในระดับท็อปไฟลต์ ที่มีทั้งชื่อเสียง และ แรงดึงดูด ซึ่งคงมากพอที่จะทำให้นักลงทุน ที่อยากโปรโมตแบรนด์ของพวกเค้าใช้เสื้อฟุตบอลเป็น "สื่อกลาง" ในการโฆษณา สินค้า บริการ ฯลฯ

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ผมเป็นกังวล และ รู้สึกได้ ว่าวันนึงมีโอกาสที่จะเกิดก็คือ ปรากฏการณ์ ล่มสลาย ของ อุตสาหกรรมฟุตบอล ที่ทุกวันนี้ บอกตามตรงครับว่า แม้ ดีมานด์ หรือ ความต้องการจากแฟนบอล ยังจะอยู่ในระดับสูงปรี๊ด เสียดฟ้า

แต่วันนึง หากเศรษฐกิจโลก ยังคงเดินหน้าสู่ภาวะ Recession หรือ ช่วงซบเซา ตามทฤษฎีง่ายๆ ของหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เมื่อรายรับของผู้บริโภคลดลง หรือต้องใช้จ่ายกับเรื่องจำเป็นมากขึ้น เมื่อนั้น ตั๋วบอล ของที่ระลึก และ ลิขสิทธิ์ การถ่ายทอดสด หากว่ายังคงราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่ และ สโมสร หรือ องค์กรที่รับผิดชอบ ไม่รีบวางแผน หรือ หากลยุทธ์มารองรับวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้น

ภาพอัฒจันทร์ที่จะมีที่นั่งโล่งเพิ่มขึ้นในแต่ละเกม ของที่ระลึก เหลือ อื้อซ่า และ เคเบิลทีวี ที่ยอดขายอาจไม่ตก แต่ก็ไม่น่าจะเพิ่ม ก็มีสิทธิ์ที่จะเห็นกันในอนาคต

นั้นคือสมมุติฐานของผม ที่ โอกาสจะเกิด หรือ ไม่เกิด ถึงตรงนี้ คงไม่มีใครรู้...แต่ที่เขียนมาเกิดจากการดูเหตุการณ์ และ สภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นกับแวดวง ธุรกิจอื่นๆ ที่ครั้งนึงเคยรุ่งเรือง และ พีกสุดๆ

ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนแล้วแต่ เป็นวัฏจักร...มีวังวนของมัน เหมือนดั่งชีวิตของคนเรา มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย วัฏจักรของทุกธุรกิจ รวมไปถึงธุรกิจฟุตบอลก็เช่นกันที่ มีจุดเริ่ม จุคพีก และ จุดจบแต่เราจะทำอย่างไร ให้ จุดจบ เกิดขึ้นช้าที่สุด ?

ถึงตรงนี้ผมระลึกถึงคำที่ในหลวงท่านเคยตรัสเอาไว้ ขึ้นมาจับใจครับว่า "จงอยู่อย่างพอเพียง"

ฉันใดก็ฉันนั้น สโมสรฟุตบอล ตามแนวทาง และ อุดมการณ์ของผม พวกเค้าควรจะเลิกใช้จ่าย ค่าตัว + ค่าเหนื่อย นักเตะ แบบบ้าระห่ำ ได้แล้ว หากไม่อยากล้มกลิ้งไม่เป็นท่า เหมือน XL และ AIG

3 comments:

Konijiwa said...

แมน ยูกับ เวสแฮม นี่ก็ต้องหา สปอนเซอร์ใหม่ป่าวคับ คุณเอก

เอก อุดมสุข said...

เวสต์แฮม กำลังหาสปอนเซอร์ใหม่นะครับ

ส่วน แมนฯยู ข่าวว่าล่าสุด AIG ได้รับเงินสนับสนุนจากแบงค์ชาติ เมกา อาจจะดำเนินธุรกิจได้ต่อ..

แต่ไม่รู้เหมือนกันว่า ยังจะเป็นผู้สนับสนุนหลัก ให้แมนฯยู ต่อไปรึเปล่า อันนี้ต้องรอ AIG แถลงคับ (คาดว่าเร็วๆนี้แหละ)

Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ สำหรับบทความดีๆ