Wednesday 11 June 2008

"กรุ๊ป ออฟ เดธ" นัดแรกพลิกล็อกกระจาย


ช็อกตาตั้งครับกับผลการแข่งขันของกรุ๊ป C "กลุ่มแห่งความตาย" ที่ฝรั่งเศสทำได้แค่เสมอกับโรมาเนีย และฮอลแลนด์ไล่ถลุงอิตาลีไปสบาย Teen 3-0

ก็จะซะอะไรอีกละครับ ก็เพราะผมดันทะลึ่งไปทำนายว่าขุนพลแดนตราไก่จะเฉือนผีดิบได้ และกังหันลมกินมะกะโรนีไม่ลง !

หมดข้อแก้ตัวจริงๆ สำหรับคราวนี้เพราะเหนือความคาดหมายของผม โดยเฉพาะคู่ฮอลแลนด์ที่เจ็บไป ก็หลายตัว แต่เล่นกันได้เทพมากสำหรับลูกทีมของ มาร์โค ฟาน บาสเท่น สกอร์ไลน์ 3-0 บอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดี

แม้ว่าประตูแรกของ รุด ฟาน นิสเตลรอยจะเกิดจากความผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยของปีเตอร์ ฟรอจด์เฟลด์ท ผู้ตัดสินชาวสวีเดนก็ตาม...

แต่รูปเกมทั้งหมดก็อย่างที่เห็นกันนะครับว่า คนละชั้นเลย ไม่น่าเชื่อจริงๆ ครับว่าอิตาลีผู้มีศักดินาเป็นถึงแชมป์โลกครั้งล่าสุดกลับเล่นได้อ่อนปวกเปียกขนาดนี้ โดยนี่ถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งยับเยินที่สุดนับในรอบ 38 ปี หลังก่อนหน้านี้เคยพ่ายหมดรูปให้ แซมบ้า บราซิลไป 4-1 ในฟุตบอลโลกปี 1970

ผมพยายามนั่งคิดหาสาเหตุว่าทำไมอิตาลีถึงเละได้เยี่ยง นี้ ?

ตัวผู้เล่นก็ดี โอกาสก็ใช่ว่าจะไม่มีในเกมนี้ โอกาสสองครั้งเห็นๆจากปิลโล่ ครั้งแรกโดน ฟาน บรองค์ฮอร์สต์ เคลียร์ออกจากเส้น ส่วนครั้งที่สอง ได้ส่องฟรีคิกของโปรดแต่โดนซูเปอร์เซฟของ คุณน้าเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด และตอกย้ำคำกล่าวที่ อายุเป็นเพียงตัวเลข (อันนี้ขอยืนยันเพราะว่าตอนนี้แอบหลงรักเด็ก! อิอิ)

หรือว่าการเสีย คันนาวาโร่ไปก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม ทำให้กำแพงกรุงโรมไม่แข็งแกร่งทนทานแบบเดิม ?
ส่วนนึงคงต้องบอกว่าใช่ครับ การขาด คันนา ไปเสียหายไม่น้อยในการเตรียมทีมของโรแบร์โต้ โดนาโดนีขณะที่อีกสาเหตุนึงที่พอจะคิดได้ก็คือ ฮอลแลนด์นั้นดีเกินกว่าอิตาลีจะหยุดพวกเค้าจริงๆ

นัดที่ผ่านมา เล่นแบบนี้ แถวบ้านเรียก ราศีแชมป์จับครับ

แม้ว่ากองหลังยังดูหลวมอยู่บ้างใน หลายจังหวะ แต่ไล่จากกลางถึงหน้าต้องบอกว่า โดดเด่นไฉไล ไม่แพ้แนวรุกสุดจี๊ดของโปรตุเกสเลย โดยเฉพาะแผงกองกลางอย่าง ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต และ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ที่ช่วยกันสร้างสรรค์และคุมจังหวะของเกม ได้อย่างยอดเยี่ยมสุดๆ

กองหน้าตัวเป้าอย่าง รุด ฟาน ก็เก๋าและน่ากลัวเหมือนเคยครับ สำหรับบทบาทหัวหอกเดี่ยวทะลวงฟัน แต่ไม่เดียวดายในเกมนี้ เพราะฮอลแลนด์ชุดนี้กลับมาเล่น Total Football ที่ขึ้นชื่ออีกครั้งในทัวร์นาเมนต์นี้

ผู้เล่นทุกตำแหน่งในทีม เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา และรู้จังหวะจังโคนการขึ้น-ลง อย่างเป็นระบบแบบแผน ซึ่งถูกเตรียมการไว้อย่างดีโดย เพชฌฆาตพรายกระซิบ ฟาน บาสเท่น ที่รับเครดิตจากทุกฝ่ายไปเต็มๆ

ผมก็ขอปรบมือดังๆ ให้ฮอลแลนด์ครับ ที่เล่นได้เอนเตอร์เทนคนดูได้มากเหลือเกินในเกมนี้

ผิดกับอีกคู่ในสายเดียวกันที่ จืดสนิท ดูแล้วเกือบหลับคาทีวี! ว่าจะไม่พูดถึงแล้วนะฮะ บอกตรงๆ แต่อดไม่ได้จริงๆ สำหรับฟอร์มของฝรั่งเศส ที่เล่นราวกับว่านักเตะแต่ละคนพึ่งลงซ้อมด้วยกันเป็นครั้งแรก

ความเข้าใจ เข้าขา ของนักเตะตราไก่ชุดนี้ แทบไม่มีให้เห็นครับ โดยเฉพาะคู่กองหน้าคาริม เบนเซม่า และ นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่ต่างคนต่างเล่นประสานงานกัน แทบจะนับครั้งได้เลย

คนหลังนี่ ถือว่าน่าผิดหวังมาก สำหรับ อเนลก้าที่ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในการลงสนาม เพราะเธียร์รี่ อองรี ยังฟิตไม่พอ แต่เจ้าตัวซึ่งฟอร์มรูดต่อเนื่องนับตั้งแต่มาย้ายมาเชลซี ก็น่าจะฉกฉวยโอกาสไว้แต่กลับทำไม่ได้ เชื่อได้ครับว่าหากเฮียแหนม ฟิตเมื่อไร เราคงได้เห็นอเนลก้านั่งสำรองยาวแน่ๆ

หลายท่านอาจสงสัยอองรีในวัยขึ้นเลข 3 จะกลับมาพีกได้อีกหรอในทัวร์นาเมนต์นี้?

ลึกๆแล้วผมก็ไม่ค่อยมั่นใจนักหรอกครับ แต่อย่างน้อย ณ สถานการณ์ตอนนี้ทีม เลส์ เบลอส์ ต้องการ Creative Forward หรือกองหน้าที่สามารถสร้างสรรค์เกมได้อย่างแรง และประการที่สอง นักเตะหลายคนดูขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะ ฟรองค์ ริเบรี่ ที่ดูจากสีหน้านั้นกดดันเหลือเกินกับ ความหวังของคนทั้งประเทศที่ฝากไว้กับหนุ่มหน้าบากคนนี้

ดังนั้นการที่จะมีอองรีเข้ามาแบ่งเบา ภาระในแนวรุก ริเบรี่ก็น่าจะมีอิสระในการเล่นมากขึ้นครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่ เรย์มงด์ โดเมอเน็คด้วยครับ ว่าจะปรับเปลี่ยนแท็กติกส์ให้ทีมกล้าบุก กว่าที่เป็นอยู่มั้ย ไม่ใช่ว่าสั่งให้ลูกน้องในทีมที่มีพรสวรรค์หลายราย เล่นแบบค่อนข้างจำกัดบทบาท และไม่ได้ดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของแต่ละคนออกมา...

ข้ามมาพูดถึงโรมาเนียคู่ต่อกรของฝรั่งเศส ในเกมนี้บ้างดีกว่า ซึ่งนัดนี้ลูกทีมของวิคเตอร์ ปิตูร์ก้าเล่นได้แบบ ไร้แรงกดดัน เนื่องจากถูกมองว่า อ่อนสุดในสาย ดังนั้นเกมนี้พวกเค้าจึงเล่นได้แบบ ไม่มีอะไรต้องเสีย และก็ทำได้ดีเสียด้วยสิครับ โดยเฉพาะในแง่ของ ทีมเวิร์กที่ทำเอาฝรั่งเศส รองแชมป์โลกคงอายม้วน

ไม่แน่เหมือนกันนะครับ ในเกมถัดไป หากอิตาลียังกู่ไม่กลับ โอกาสที่ผีดิบ โรมาเนียจะเข้าไป หลอกหลอน ทีมอื่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายก็ยังพอมีเหมือนกันหลังเก็บ 1 คะแนนมาตุนในกระเป๋าได้ในเกมแรก ขวัญและกำลังใจจึงน่าจะฮึกเหิมพอดู

สรุปสถานการณ์ กรุ๊ป ออฟ เดธ ในวันแรก ฮอลแลนด์นั้นฟอร์มแบบนี้ ได้ลุ้นเข้ารอบไปยาวๆเลยครับ ส่วนอีกสามที่เหลือนั้นคงได้แค่ลุ้นเป็นที่สอง

สำหรับคืนนี้ กลุ่ม A จะลงเตะเกมที่สอง คู่แรก เช็ก-โปรตุเกส ผมยังเชื่อใจโปรตุเกสครับแม้ว่า โอกาสเสมอจะสูง ขณะที่อีกคู่ ตุรกีแพ้มาในเกมแรก เจอเจ้าภาพสวิส ที่แพ้มาเช่นกัน เกมนี้เตะกัน เลือดสาดแน่นอน แต่การที่ขาด อเล็กซานเดอร์ ฟราย กองหน้ากัปตันไป ยวบไปเยอะครับ

โอกาสจะเสมอนั้นพอมี แต่ชนะนั้นบอกตามตรงครับว่าค่อนข้างลำบาก

No comments: