Sunday 24 June 2007

London night life: เที่ยวอย่างไร ให้ “สนุก”และ “เหมาะสม”


บรรยากาศยามค่ำคืนของทุกๆวีคเอน ตามผับไทยและฝรั่งจะมีนักท่องราตรีเป็นจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปสังสรรค์ เฮฮาปลดปล่อยตัวเอง ตามจังหวะเพลงแดนซ์ แสงไฟที่สาดส่องเข้ามาทำเอาหนุ่มสาว ที่ดื่มกันไปบ้างแล้ว ยิ่งรู้สึกเมามันกับบรรยากาศที่ครึกครื้น เนืองแน่นไปด้วยผู้คน

ซึ่งหลายๆครั้งที่ได้มีโอกาสนำตัวเองเข้าไปสัมผัสชีวิต กลางคืน ในมหานครที่ขึ้นชื่อได้ว่า มีมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล ไม่แพ้ประเทศใดในโลก ก็สังเกตเห็นได้ว่า มีเด็กนักเรียนไทย หน้าตาใสๆวัยพึ่งพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยมาได้ไม่นาน จำนวนไม่น้อยทีเดียว เข้ามานั่งดื่มกันเป็นกลุ่มเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ตามแต่ขนาดและพื้นที่ของร้านจะเอื้ออำนวย

ส่วนผับไทยที่หนุ่มสาวนักท่องราตรีบอกกัน “ปากต่อปาก”ว่าถ้ามาแล้วควรต้องไปเยี่ยมเยียน ถ้าอยากมาให้ถึงประเทศอังกฤษก็มี Addie’s และ Thaisquare ซึ่งเป็นสถานที่ “ขึ้นชื่อ”ที่สุดในลอนดอน ณ เวลานี้
Addie’s และ Thai Square จริงๆแล้วมี “จุดแข็ง” ที่ใช้ดึงดูดลูกค้าต่างกันไป แม้ว่าสภาพแวดล้อม โลเคชั่นและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงสต๊าฟในร้านก็ “หน้าตาดี” และ “เป็นมิตร” ไม่แพ้กัน

ส่วนตัวแล้วถ้าต้องการ “ความอบอุ่น” ไปแล้วรู้สึกเหมือน “บ้าน” ก็ต้องเป็น Addie’s เนื่องจาก บรรยากาศเน้น “ความเป็นกันเอง” ของ “ผู้ให้บริการ” อย่างพี่ เอ Addie’s กับ “พี่ๆน้องๆ ชาวไทย” ที่ถือเป็น “จุดขาย” ที่ทำให้ร้านแน่นเหลือเกิน โดยเฉพาะทุกคืนวันศุกร์

ขณะที่ Thai Square โดยเฉพาะสาขา Trafagar Square นั้น เน้น “ความมันส์” ให้ขาแดนซ์ ได้มีโอกาสได้โยกย้าย ส่ายสะโพก ตามจังหวะเสียงเพลง เนื่องจากมีฟลอร์ให้เต้นรำค่อนข้างกว้างกว่าผับไทยอื่นๆอย่างชัดเจน

โดยมากแล้วสาเหตุที่คนไทยนิยมไปผับไทยมากกว่าผับฝรั่งเนื่องจากว่า ไปแล้วได้เจอ “เพลงไทย”และ “คนไทย” ด้วยกันซึ่งทำให้ตัวเองไม่รู้สึกว่า “ไกลบ้าน” และมากไปกว่านั้นคือการได้ “พบปะ พูดคุย และสังสรรค์” กันตามประสาคนที่มาจาก มาตุภูมิเดียวกัน

หลายๆครั้ง ที่ได้มีโอกาสได้ถามไถ่ ความรู้สึกของผู้ที่ได้มาอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษนานๆ ว่ารู้สึกอย่างไร อยากกลับไปหรือคิดถึงบ้านมากน้อยขนาดไหน

คำตอบที่ได้มาส่วนใหญ่ก็คือ ถ้าทำ “จุดมุ่งหมาย” (ซึ่งหมายถึง เรียนหรือทำงานเก็บเงิน) ของแต่ละคนบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็จะกลับประเทศไทย ไม่ได้คิดจะมาใช้ชีวิตหรือตั้งรกราก ที่นี้

และส่วนมากช่วงเวลาที่รู้สึกคิดถึงบ้านมากที่สุดก็คือช่วงเวลากลางคืน ก่อนจะเข้านอน

บ้างก็ให้เหตุผลว่าเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมา บ้างก็ท้อแท้ ผิดหวังจากการเรียน โดยเฉพาะเด็กนักเรียน ป.โท หรือ ป.เอก บางคนที่ต้องเรียนและทำงานไปด้วย นั้นทำให้พวกเขาอยากกลับบ้านขึ้นมาอย่างจับใจ เนื่องจากความเหนื่อยล้าจากทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน

ครับ หลายครั้งการได้พบ “เพื่อนใหม่” และ “มิตรภาพ” ใหม่ๆก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ไม่ต้องรู้สึก อ้างว้างและคิดถึงบ้าน ได้ชั่วขณะหนึ่ง

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็น หนุ่มสาวชาวไทยจำนวนไม่น้อย ออกมาท่องราตรี เพื่อลดความเหงาและได้เจอะเจอเพื่อนฝูงในยามค่ำคืน


แต่บางครั้งในการเที่ยวและพบ “มิตรภาพ”ใหม่ๆยามค่ำคืน ก็ควรอยู่ใน “ขอบเขต”ที่จำกัดบ้าง โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่าง ชาย-หญิง

เพราะถ้าปล่อยตัว ปล่อยใจ จนเกินงาม แทนที่จะได้มาสนุกสนานกับเพื่อน กลับจะต้องทุกข์ถนัดเพราะความพลั้ง เผลอ ซึงบางครั้งมันมีสาเหตุมาจาก น้ำที่เราเรียกว่า “น้ำเมา”

นั้นเป็นแค่ส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งในสังคมกลางคืนซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เชื่อได้ว่า คนรุ่นใหม่ส่วนมากที่ “มีความคิด” ก็แค่มาสนุก เฮอา กับเพื่อนฝูง แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

การ “ใช้จ่าย” ในการท่องราตรีก็เป็นอีกเรื่องที่เราควร “ลิมิต” ตัวเองไว้บ้าง เพราะไม่ว่า “ปัจจัย”ที่เราใช้ไป จะมาจากการซัพพอร์ตของบุพการีที่เมืองไทย หรืออาจจะหามาได้ด้วย น้ำพัก น้ำแรงของตัวเองก็ดี

มัน “ควรค่า แก่การออม”ครับ

เพราะไม่ใช่คิดแค่วันพรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า หรือ เดือนหน้า แต่อยากให้คิดถึง อนาคตไปยาวๆว่า ถ้าวันนึงเราหมดแรงทำงานแล้ว เราจะเอา “ปัจจัย”ตรงไหนมาหล่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว

การเที่ยวกลางคืน ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ ถ้าเรารู้จักคำว่า “พอดี”

อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้เวลาว่างอื่นๆในการพบปะ เพื่อนฝูง ให้เป็นประโยชน์ได้ด้วยการ เล่นกีฬา เล่นดนตรี หรือจับกลุ่มกันติวภาษาอังกฤษ ก็เป็นไอเดีย ที่ไม่เลวน่ะครับ

ไหนๆก็มาถึงถิ่นเจ้าของภาษาแล้ว “สู้สิครับ”!!

5 comments:

Anonymous said...

where r u going to drink on this
coming sunday nite ja 55 ??
this article is also good one naja^

เอก อุดมสุข said...

ตอนนี้ กำลังจะ"ลด ละ เลิก" จ๊ะ ^^

nunate said...

จำได้ๆๆๆ...
ว่าเคยอ่านตอนก่อนที่จะลงพิมพ์
เขียนได้อย่างมืออาชีพเลยนะจ๊ะ...
สู้ดิ..จิงมั้ย

เอก อุดมสุข said...

ใช่ๆ ตอนนั้นส่งต้นฉบับให้พี่ บก.พร้อมกับเนตรเลย
อิอิ จำได้ด้วย ดีใจจัง..

Anonymous said...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ