Friday 22 June 2007

เมื่อไหร่ หนอ “การเหยียดสีผิว” ในเกมฟุตบอลจะหมดไป?



หลังเกมรอบแรกนัดสุดท้ายในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยู-21 ปี คู่ระหว่าง อังกฤษพบเซอร์เบีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา “ผลการแข่งขัน” 2 ประตูต่อ 0 ที่อังกฤษมีเหนือเซอร์เบียไม่ได้เป็นจุดสนใจและพูดถึงเท่าไรนัก

นั่นก็เพราะ “ประเด็นร้อน” ที่ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น ฟีฟ่า, ยู่ฟ่าและเจ้าภาพของงานอย่าง “เนเธอร์แลนด์”ให้ความสนใจมากกว่าคือ เรื่อง “การเหยียดผิว”ที่เกิดขึ้นระหว่างเกมคู่นี้

ที่มาที่ไปของประเด็นร้อนนี้ก็คือ การที่ “เนดัม โอนูโอฮา” วิงแบ็คดาวรุ่งของสโมสรเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดน “เหยียดสีผิว”จากแฟนบอลของเซอร์เบีย ในช่วงครึ่งเวลาแรก

ประกาศจาก เว็บไซต์ www.uefa.com ออกมาแล้วครับว่า ไม่ใช่แค่ โอนูโอฮา คนเดียวที่โดน “กระทำ” ในเกมนี้

จัสติน ฮอยต์ ดาวรุ่งจากอาร์เซนอลอีกรายก็โดนแบบเดียวกันจาก “นักเตะ”เซอร์เบียรายหนึ่งที่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ ระหว่างเดินเข้าอุโมงค์ทางไปห้องพักนักเตะหลังจบเกม


เป็นที่ทราบกันครับว่าปัญหา Racist abuse หรือ การเหยียดผิวถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันภายในประเทศหรือการแข่งขันระดับนานาชาติ เฉกเช่นการรายการนี้

รัฐมนตรีการกีฬาของอังกฤษอย่าง ริชาร์ด คาบอร์น ได้ออกมาประกาศแล้วครับว่าจะเอาเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยตอนนี้ คาบอร์นได้ร่างจดหมายถึงรัฐบาลเซอร์เบีย เพื่อแจ้งให้ทราบถึงพฤติกรรมอัน “ไม่เหมาะสม”ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ วิลเลี่ยม เกลลาร์ด ผู้อำนวยการด้านประชาสัมพันธ์ ของยูฟ่าก็ออกมาแสดงถึงความรับผิดชอบโดยได้แจ้งและเริ่มสืบสวนเรื่องนี้กับ สมาคมฟุตบอลเซอร์เบียหรือ FSS (Serbian Football Association) แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผลการลงดาบตัดสินโทษจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 12 กรกฎาคม ซึ่งนั่นหมายความว่า เซอร์เบียที่ได้เข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศกับ เบลเยี่ยม “ทีมม้ามืด”ของการแข่งขันในครั้งนี้ จะไม่ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขัน

ถามว่าแฟร์มั้ยกับทีมสิงโตชุดเล็กของ สจ๊วร์ต เพียร์ซ ที่โดน “กระทำ” เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในเกมฟุตบอลสมัยใหม่ที่ทุกคนบอกกัน ปาวๆ ว่า “Anti-Racism”

หนำซ้ำพวกเค้ายังอาจต้องไปเจอกับเซอร์เบียในรอบตัดเชือกอีกครั้งก็เป็นได้ หากทั้งสองทีมเอาชนะคู่แข่งได้ ในคืนวันพุธนี้

เครื่องหมาย คำถามตัวหนาพุ่งไปหายูฟ่า ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้อย่างช่วงไม่ได้ เพราะความคาดแคลงใจที่ว่า ทำไมยูฟ่าต้องรอจนถึง วันที่ 12 เดือนหน้า และทำไมไม่ “ตัดสิทธิ์” เซอร์เบียออกจากการแข่งขันไปเพื่อ “สั่งสอน”ให้เป็น “บทเรียน”เพื่อไม่ให้ใครเอาเยี่ยงอย่างอีก

ผมเชื่อน่ะครับว่าถ้ายูฟ่า เลือกถีบเซอร์เบียออกจากการทัวร์นาเมนต์นี้ไป “ปัญหาการเหยียดผิว” ในเกมฟุตบอลน่าจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

นั่นเพราะทีมชาติและสโมสรคงจะเข้มงวดและปลุก “จิตสำนึก”ของแฟนบอลให้เคารพนักเตะหรือแฟนบอลคู่แข่งมากกว่าที่เป็นอยู่

นัยนึงก็คือแฟนบอลจะกลัวทีมรักตัวเองถูกลงโทษ…

นี่จึงอาจเป็นอีกหนึ่ง “ความผิดพลาด”ของยูฟ่า ที่ไม่เลือกดำเนินการด้วยความรวดเร็ว แม้ว่า “ความผิด”และ “หลักฐาน”จะเห็นๆกันอยู่

จากนี้ก็ต้องลุ้นว่าทีม “สิงโตน้อย”ของสจ๊วร์ต เพียร์ซ ว่าจะมี“ผลกระทบ” ทางจิตใจจากเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่
ผลงานโดยรวมของทีมชุดนี้จากที่ได้ดูจาก“ไฮไลต์” ในสามเกมที่ผ่านมาก็ถือว่าไม่ขี้เหล่ครับ เมื่อเสมอ เช็ก 0-0 เสมอ (แบบน่าชนะ) กับอิตาลี 2-2 และ ชนะเซอร์เบีย 2-0 ในเกมล่าสุด

แม้จะมีจังหวะ “เหวอ” ให้เห็นบ้างในเกมรับเมื่อครั้งออกนำอิตาลีไป 2-0 แต่สุดท้ายโดนตามตีเสมอในตอนจบ

แต่เกมรุกของทีมดูแล้ว “กล้าได้กล้าเสีย” สมกับที่ “ไซโค เพียร์ซ”คุมทัพ ดูแล้วได้ใจแฟนบอลอังกฤษที่ต้องการเกมที่ “เอนเตอร์เทน” ไม่น้อยทีเดียว

อย่างไรก็ดีทีมชุดนี้ยังถือว่าใช้โอกาสค่อนข้าง “เปลือง” โดยเฉพาะเลอรอย ลิต้าที่แม้จะยิงไปแล้ว 2ประตูแต่ความเป็นจริง เจ้าตัวน่าจะยิงได้ถึง 4 ลูกแล้ว ถ้าไม่พลาดง่ายๆแบบ “หมูหก”ในเกมที่ผ่านๆมา

เรื่องความ “นิ่ง” คือสิ่งเดียวที่เพียร์ซต้องติวเข้มในเกมพบกับทีมเจ้าภาพอย่าง เนเธอร์แลนด์ที่เล่นได้สมกับเป็น “ทีมเต็ง”ในรายการนี้

ไรอัน บาเบิล กองหน้าดาวรุ่งจากอาแจ๊กซ์ ที่ระเบิดฟอร์ม “เทพ” ในรายการนี้คือนักเตะที่กองหลังอังกฤษชุดนี้ต้องคอยระวังให้ดี เพราะถ้าพลาดง่ายๆหรือออกอาการ “เหวอ”ให้เห็นอีก รับรองได้ว่า โดนยิง
“ไส้ไหล” แน่นอน

หลังจากเห็นลีลาหมอนี่ในทัวร์นาเมนต์นี้ จึงไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไม อาร์เซนอลจึงอยากได้ตัวมาแทนที่ “เจ้าห้อย” เธียรี่ อองรี ที่ทำท่าว่าจะหอบข้าวของไปหากินในสเปน เพราะเจ้าตัวทั้งเร็ว คล่อง คม พูดง่ายๆว่า “ครบเครื่องต้มยำ” จริงๆ

อย่างไรก็ดีในเกมรอบรองชนะเลิศนี้ ส่วนตัวแล้วอยากจะเห็นเกมที่ “ขาวสะอาด” และ “ไร้ซึ่งการเหยียดผิว”เหนือสิ่งอื่นใด

เพราะ การขาด “สามัญสำนึก” ของแฟนลูกหนัง “นิสัยเสีย”บางราย ทำให้เกมฟุตบอล “เปรอะเปื้อน”และเพิ่มดีกรี ความเดือดดาลของนักเตะให้มี “อารมณ์”แบบที่ไม่ควรจะเป็น ซึ่งมันพาลไปถึง
“การเล่นนอกเกม”และเสีย“สปิริต”ของเกมฟุตบอลไป

ก่อนเกมรอบรองจะเริ่มขึ้น…จึงหวังเหลือเกินครับว่ายูฟ่าจะดำเนินการใดๆเพิ่มเติมกับนักเตะเซอร์เบียบ้าง อย่างเช่นแบนนักเตะ “นิรนาม”ผู้ซึ่งพูดจา “เหยียดผิว”จัสติน ฮอยต์ ในอุโมงค์สนาม ในเกมวันพุธนี้

เพื่อให้ทุกอย่างมัน “ชัดเจน” และ “ยุติธรรม” สำหรับทุกฝ่ายก็เท่านั้นเองครับ…

Viva London โดย เอก อุดมสุขข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 2890

3 comments:

ธานคับ said...

แวะมาเยี่ยมครับ แฟนไก่เหมือนกัน อิฮิ

http://thai-tottenham.blogspot.com/

Anonymous said...

this is a good one na p*ake!!
^______^keep on tryin""" na aKe-U-dom-suk eiei!!!

Anonymous said...

ขอบคุณมากนะครับ