Wednesday 7 May 2008

สเวน, แกรนต์ สองกุนซือสุดอาภัพแห่งปี













ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพฤดูกาล 2007-2008 ที่กำลังจะรูดม่าน ปิดฉากลง ในสุดสัปดาห์ ที่จะถึงนี้หากจะหาบุคคล ที่น่าสงสารที่สุดหากไม่ใช่ เอดูอาร์โด้ ดาซิลวา ที่โดนหวดขาหักเป็นสองท่อน, แฟรงค์ แลมพาร์ดที่เพิ่งสูญเสียคุณแม่ "แพท แลมพาร์ด" ไปในช่วงที่ทีมเชลซีกำลัง อยู่ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม หรือยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ ที่นอกจากชีวิตการค้าแข้ง ในปีนี้กับหงส์แดงจะไม่ค่อยรุ่งแล้ว ยังมีตราบาปที่ลืมไม่ลงอย่างการทะเล่อทะล่าทำ Owngoal จนเป็นหนึ่งในหลายๆ สาเหตุที่ ทำให้ลิเวอร์พูล ต้องอกเดาะอดตีตั๋วไปมอสโก ฯลฯ

อย่างไรก็ดี สามรายข้างต้นนั้นจัดอยู่ในกลุ่ม ของนักเตะ...ที่นี้หากเรา จะมองหากุนซือ ที่อาภัพที่สุดกันบ้างหลังจากที่กวาดสายตา มองดูรายชื่อ กุนซือของพรีเมียร์ชิพในปีนั้น ผมขอให้ตำแหน่งนี้กับ สเวน โกรัน เอริคส์สัน และอัฟรัม แกรนต์ ครับ

อย่างที่ทราบกันน่ะครับ กระแสข่าวเรื่องการ จะปลด สเวน นั้นอยู่ในขั้นรุนแรงมาก และข่าวลือการจะดึง "บิ๊ก ฟิล" หลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ มาแทน "บิ๊กเถิก" นั้นก็เริ่มส่อเค้าจะเป็นจริงขึ้นมาทุกที

จริงอยู่ที่แม้ แมนฯซิตี้ฯ ในช่วงหลังๆ จะมีฟอร์มการเล่นที่ออกทะเลไปบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง ครึ่งฤดูกาลหลัง และผมก็เข้าใจหัวอกคนลงทุนอย่างคุณทักษิณด้วยเช่นกันว่า ต้องการเห็นทีมประสบความสำเร็จ หลังจากเซ็นเช็คให้งบ สเวนนี่ ช็อปนักเตะไปไม่น้อยในฤดูกาลนี้ (38 ล้านปอนด์)

แต่หากมองโลกด้วยความเป็นจริงที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 9 ในลีก และผลงานโดยรวมที่ซิตี้ก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้าย มากมาย นักหากเทียบกับฤดูกาลก่อนที่มี สจ๊วร์ต เพียร์ซ คุมบังเหียนอยู่ ทีมจากย่านอีสต์แลนด์ "หมู" กว่านี้แยะครับ

อีกอย่างก็คือ นี่เป็นเพียงแค่ฤดูกาลแรกของสเวนนี่ กับพรีเมียร์ชิพ และนักเตะต่างชาติหลายต่อหลายราย ก็ถือว่าใหม่มากกับลีกที่เขี้ยวลากดินแบบนี้ ดังนั้นมันจึงไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดครับหากอดีต กุนซือทีมชาติอังกฤษรายนี้จะโดนเขี่ยพ้นทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
เพราะนอกจากทีมจะขาดความต่อเนื่องแล้ว การจ้าง "บิ๊กฟิล" มาก็ไม่ได้การันตีอะไรเลยครับว่า เรือใบสีฟ้าลำนี้ จะผงาดเป็นทีมชั้นนำเพียงแค่ช่วงข้ามคืน

ดูทีมอย่าง ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส หรือนิวคาสเซิล ที่เงินอัดฉีดจากบอร์ดนั้นให้มาในแต่ละปีใช่ว่าน้อยที่ไหน ความสำเร็จบางครั้งในเกมฟุตบอลมันไม่เหมือนธุรกิจทั่วไปนะครับ ที่จะใช้เงินบันดาลสำเร็จได้แบบแบเบอร์เสมอไป

ฟุตบอลมันเป็นศาสตร์ และศิลป์ที่ลึกซึ้งมากกว่านั้นครับ ไหนจะเป็นโครงสร้างทีมที่ผู้จัดการใหม่แต่ละคน ต้องมายกเครื่องกันใหม่เมื่อเข้ามาทำทีม ความเข้าใจ เข้าขากันของนักเตะใหม่ในทีมรวมไปถึงแท็กติกส์การเล่น และที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของ "เวลา" ครับ
ลองดูบรมกุนซืออย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, อาร์ แซน เวนเกอร์ หรือโจเซ่ มูรินโญ่ กว่าที่พวกเค้าจะพาทีมผสมผสานทีม ให้ลงตัวได้ต่างก็ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะความสำเร็จนะครับ ขณะที่เรื่องเงิน แม้จะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ใน "โมเดิร์นฟุตบอล" แต่ก็จัดว่าเป็นแค่เรื่องที่รองลงมา
ขณะที่กุนซืออีกรายที่ถือว่า อาภัพ ไม่แพ้ สเวนนี่ หากมีอันต้องโดนปลดออกไปจริงๆ ก็คือ อัฟรัม แกรนต์ หรือ "มิสเตอร์คางคก" ที่เข้ามารับ งานต่อจากโจเซ่ มูรินโญ่ ในเดือนกันยายนปีที่แล้วหลังจากเชลซี ออกสตาร์ตได้ไม่สวยในช่วงต้นฤดูกาลครับ

ผมเองยอมรับครับว่าช่วงแรกๆ นั้น ไม่ค่อยจะเชื่อในฝีมือของกุนซือเลือดยิวนี้สักเท่าไร แต่หลังจากวันนั้นถึงวันนี้เวลาก็ปาเข้าไป 8 เดือนกว่าๆ แล้ว และแกรนต์ก็ถือว่าทำผลงานได้เหนือความคาด หมายของหลายๆ คนพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการพาทีมผ่านวิกฤติในช่วงที่นักเตะ เจ็บกันระนาว + ตัวหลักหลายรายกลับไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นคัพ อีกทั้งโดน "ดิส เครดิต" ไปไม่น้อยในแมตช์พ่ายสเปอร์สในคาร์ลิ่งคัพ นัดชิงชนะเลิศ 1-2 ต่อด้วยโดนเจ้าตูบ บาร์นส์ลีย์ถีบตกรอบ เอฟเอ คัพ 0-1 อีกไม่กี่อาทิตย์ให้หลัง

แต่กระนั้นก็ดี จากที่รับบทเป็น "ตาอยู่" รั้งอันดับสาม ในศึกพรีเมียร์ชิพอยู่นานสองนาน ในที่สุดความพยายามของเชลซีภายใต้การทำทีมของแกรนต์ก็สามารถมีลุ้นจน ถึงนัดสุดท้ายในฤดูกาลได้หลังจากที่ล่าสุดพวกเค้ายัง รักษาความสม่ำเสมอในฟอร์มการเล่นด้วยการบุก ไปเชือดนิวคาสเซิล ที่ฟอร์มดีขึ้นมามากในช่วงหลังได้ถึงรัง เซนต์ เจมส์ พาร์ค 2-0 จากการทำประตูของกัปตันทีมชาติ เยอรมัน มิชาเอล บัลลัค และฟลอรองต์ มาลูด้า

นอกจากนี้ยังสามารถพาทีมปราบลิเวอร์พูล ของราฟาเอล เบนิเตซ "เจ้าพ่อบอลถ้วย" ได้ด้วยในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และทะลุเข้าชิงชนะเลิศกับแมนฯยูฯในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

อย่างไรก็ดีถึงตอนนี้สถานะของแกรนต์ยังเป็น Dead Man Walking เนื่องจากยังไม่รู้อนาคตตัวเองเลยว่าจะได้อยู่ ทำทีมในซีซั่นหน้าหรือไม่ แม้ว่าโดยรวมแล้วผลงานของเค้า ถือว่าสอบผ่านสบายๆ หากเชลซีไม่ได้มีเจ้าของที่ชื่อโรมัน อบราโมวิช!!
อย่างที่เคยเรียนไปในคอลัมน์ก่อนหน้านี้ครับว่าอดีต ผอ.ปอร์ทสมัธนั้นมีชอยส์ให้เลือก ไม่มากนักหากคิดที่จะนั่งแท่นเป็นกุนซือให้ "สิงห์ไฮโซ" ต่อไปในปีหน้า

ชอยส์แรก คือ เป็นแชมป์ และชอยส์ที่สองก็คือเป็นแชมป์!! หากไม่อย่างนั้นแล้วเชลซีก็คงจะยกข้ออ้างร้อยแปด ประการมาปลดแกรนต์อย่างไม่ต้องสืบให้เสียเวลาเลย เพราะเสี่ยหมีนั้นลงทุนไปมากเหลือเกิน และคงไม่ไช่เรื่องที่ดีแน่หากปีนี้พวกเค้าต้อง "แห้ว" ทุกถ้วยในปีนี้ สองก็คือสไตล์บอลของแกรนต์นั้นยังไม่ค่อยเข้าตา และน่าตื่นตาตื่นใจเท่าทีมอย่างแมนฯยูฯ และ อาร์เซนอล

ในลีกนั้นต้องยอมรับครับว่าโอกาสของ เชลซีที่จะเป็นแชมป์ยังพอมีหวังอยู่เล็กๆ แต่ก็ถือว่าค่อนข้างยากอยู่ที่จะลุ้นให้แมนฯยูไนเต็ด ที่ "ท็อปฟอร์ม" มากๆ ในตอนนี้ พลาดท่าแพ้ให้กับวีแกนในนัดสุดท้าย แม้จะต้องออกไปเยือนที่ เจเจบี สเตเดี้ยม ก็ตาม ขณะที่พวกเค้าเองก็ห้ามพลาดเช่นกันกับการเปิดบ้านรับการมาเยือนของโบลตัน

แต่กับถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จะเตะแบบนัดเดียวรู้ผล ผมมองว่าไม่มีใครเหนือกว่าแน่นอนครับ และลึกๆ ผมก็อยากจะรู้จริงๆ ว่า หากแกรนต์จับพลัดจับผลูได้มาสักแชมป์เนี่ย ท่านประธานที่เอาใจลำบากอย่าง เสี่ยหมีเนี่ย ยังจะกล้า ปลดแกรนต์มั้ย ??!!

3 comments:

ธานคับ said...

หวัดดีคับคุณ เอก เรื่อง แกรนท์ ผมว่าน่าสงสารตรงที่เข้ามาแล้วไม่ได้ยอมรับเท่าที่ควรในตอนแรก แต่ทำทีมได้ขนาดนี้ก็ต้องให้เครดิต แต่ผมก็มองว่า ถ้าเป็นทีมระดับเชลซี บารมีแกยังไม่ถึงอ่ะครับ จบฤดูกาลถ้าได้แชมป์ใดแชมป์หนึ่ง แกสละบัลลังคืเองแน่นอน ขึ้นไปเป็นผู้อำนวยการเหมือนเดิม

ส่วนสเวน ผมก็เห็นใจนะครับ แต่ถ้ามอง แมน ซิติ้ เทียบกับฤดูกาลที่แล้ว มันก็ดีขึ้นจริงๆ แต่อย่าลืมว่า ทีมอยู่ในโซนหนีตกชั้นฤดูกาลที่แล้ว กราฟมันดิ่งลงแล้ว พอมันโงหัวขึ้น มันก็ดีกว่าปีที่แล้วทั้งนั้นแหละครับ

ลองดูว่าทีมทุ่มเงินไปเท่าไหร่ มีนักเตะกี่คนที่เข้ามา ผลงานช่วงแรกดี แต่ช่วงหลัง ทำไมสเวนถึงไม่สามารถกระตุ้นให้ดีขึ้นได้ โอเค ทีมมีช่วงฟอร์มตก แต่หลังๆ มันมากไปนะครับ หากทีมจบอันดับ 13-14 มันก็ดีกว่าฤดูกาลที่แล้วอยู่ดี

ดูไก่เราสิครับ ผลงาน โยล ได้ ที่ 5 สองปี แต่ฤดูกาลนี้มันไม่ไหว ทั้งๆ ที่ผ่านไปไม่กี่นัดแล้ว สุดท้ายฝ่ายบริหารสั่งปลดแล้วได้ รามอส มาแทน ทีมดีขึ้นทันตาเห็น (ถึงแม้ช่วงหลังจะห่วยก็ตาม)

ที่มองว่าสเวนมีเวลาน้อยกว่า แต่มุมมองผม มองแล้วว่า แผนการช่วงแรกของประธาน คือซื้อใจแฟน แมนซิติ้ เพราะหากเอา กุนซือธรรมดา มาคุม แฟนบอลจะไม่ยอมรับเท่าที่ควร

ตอนแรกแฟนบอลยี้จะตาย แล้วตอนนี้หนุนหลังสเวนกันทั้งนั้น หากได้กุนซือระดับเทพมาคุม แฟนบอลน้อยคนที่จะหนุนหลังสเวน

ถึงแม้ปีนี้ผลงานทีมดีขึ้นก็จริงแต่แนวโน้ม กราฟมันลงเรื่อยๆ นะครับ อย่าลืมว่าตอนคุม ลาซิโอ แกใช้เงินไปเท่าไหร่ และกว่าจะทำทีมได้แชมป์ เกือบตายนะครับ

ส่วนเสี่ยแม้วผมว่า แกไม่ได้หวังถึงแชมป์หรอก แค่ได้ไปบอลยุโรปก็หรูแล้ว แกหวังว่าทีมได้เล่นระดับสูงๆ เป็นที่รู้จัก ก็ขยายแบรนด์ได้ง่าย เอเชีย อเมริกา อาหรับ คือเป้าหมาย

เพราะฉะนั้น เมื่อถึงคราวต้องทำศึกใหม่ ต้องใช้คนให้เหมาะกับสถานการณ์ ดังนั้นสเวนก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป ผมไม่เชื่อว่า ทักกี้ แกจะเอาสโคลารี่มาคุมทีม ผมว่า แกเอา เฮียมู มาแน่ๆ เชื่อผมเถอะครับ

กุนซือแบบเฮียมู สร้างกระแสได้เยอะ เงินถึง แถม ประธานสร้างสีสันได้ ทีมได้ประโยชน์แน่อน รูปแบบการเล่นอาจจะไม่เน้นรุก แต่ด้วยชื่อของ เฮียมู ใครๆ ก็จับตามอง แล้วที่นี้ แบรนด์ แมนซิติ้ ก็ดังได้ไม่ยาก

ระดับทักกี้ ผมว่าคงไม่โง่ที่จะทำให้ทีมตัวเองพังง่ายๆ หรอกครับ ถ้าไม่เตรียมทางออกไว้แล้ว

ฟันธง เฮียมูมาแน่นอนครับ

เอก อุดมสุข said...

คอมเมนท์ยาวดีจัง ชอบครับชอบ ^^

ครับ ส่วนนึงผมยอมรับครับว่า สเวนในช่วงนี้ไม่สามารถกระตุ้นลูกทีมได้มากเท่าที่ควรก็จริงอยู่ แต่อย่าลืมน่ะครับว่า แกก็ไม่ใช่กุนซือที่จะมาตะโกนสั่งลูกทีมข้างสนาม มาตั้งนานแล้ว

ส่วนอีกเรื่องผมเห็นด้วยกับคุณธานครับ ที่ว่าคุณทักษิณกะจะซื้อใจแมนฯซิตี้ ด้วยการดังสเวนเข้ามาสร้างกระแส ความสนใจให้มีมากขึ้น

แต่ใจนึงผมยอมรับน่ะครับว่า ถ้าจะให้เป็นธรรมกับกุนซือจริงๆ อย่างน้อยที่สุดควรจะให้เวลาในการทำทีม 2ฤดูกาลครับ

ส่วนรามอส ผลงานดีขึ้นจริงหรือเปล่าผมชักเสียวๆแล้วล่ะครับ

ที่ได้แชมป์ลีกคัพมา ส่วนนึงผมมองว่า 'จังหวะ'ที่แกเข้ามาคุมทีมนั้นมันได้พอดีมากๆครับ แม้ส่วนนึงก็ต้องชมรามอสแกด้วยที่ปรับเปลี่ยนวิธีการซ้อม โภชนาการ ยกเครื่องกันใหม่หมด

เรื่องแกรนท์ เห็นด้วยครับที่ว่า บารมีแกมีไม่ถึงจริงๆที่จะคุมทีมอย่างเชลซี

สรุปน่ะครับ ถ้าเปลี่ยนแปลงแล้วเป็นไปในทางที่ดี มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ

ปล. มั่นใจจริงๆหรอครับว่า น้่ามู จะมาคุมซิตี้ จริง ??? อันนี้มุมมองผมมองว่า โอเค มีความท้าทายจริงสำหรับเจ้าตัว แต่ลึกๆผมว่าเฮีกแกเหมาะไปคุมทีมระดับเทพ อย่าง บาร์เซโลน่า หรือ เอซี มิลาน มากกว่าครับ

ธานคับ said...

ตอนนี้ ทีมใหญ่ปฏิเสธแกเกือบหมดแล้วครับ บาร์ซ่า ให้ เป็บ กวาดิโอลาร์ มาคุม อันนี้ตัดไป

มาดริด ชูสเตอร์น่าจะได้คุมต่อ

อินเตอร์ บอกไม่เอาแล้ว

มี มิลาน ที่ไม่แน่ว่าจะให้พี่แจ้ คุมต่อหรือเปล่า

บาเลนเซีย น่าจะดัน โบโร่ คุมเต็มตัว เหลือมิลานที่โอกาสน่าจะมีอยู่บ้าง

อย่าลืมว่าเฮียมู เพิ่งอายุ 45เองนะครับ อายุยังน้อย แถม แกอาจอยากเอาคืนเชลซีและหักหน้า เสี่ยหมี ด้วยการเผชิญหน้าในสนาม และสร้างทีมเริ่มต้นใหม่กับมือ เพื่อพิสูจน์ บารมีแกเองขึ้นมา เพราะ เชลซีนอกจากที่ใช้เงินมือเติบมาแล้ว แต่ส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างของ รานิเอรี่นะครับ

มาแมน ซิติ้ ไม่กดดันอะไร เงินมีให้ใช้ ได้นักเตะระดับเกรด บี ถึง บี+ ที่นักเตะมีความมุ่งมั่นและกระหายความสำเร็จตามคอนเซปต์แก แถมทีมอคาเดมี่สุดเจ๋งอีกตั้งหาก

ไม่ต้องกังวลว่าต้องการความสำเร็จเป็นแชมป์โดยเร็ว ให้เฮียแก มีโอกาสสัก 3 ปี แค่ได้ไป ยูฟ่าคัพ ผมว่าประธาน แม้วก็พอใจแล้ว

เพราะ ชื่อ มูริญโญ่ ขายได้อยู่แล้ว ไปไหน คนก็อยากมาดู แถมมีโอกาสได้คอยแก้แค้น พวก แมนยู ไอ้เน่า หรือ นกกระเด้าลมสีแดงอีกตะหาก

คุมสัก 2-3 ปี เดี๋ยวโอกาสทีมใหญ่ก็มาหาเอง ถ้าทำทีมดีๆ ใครก็ว่าแกไม่ได้ว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ ผมว่าอันนี้ล่ะครับ ความท้าทายของแก ถึงแม้ทีมจะเล็กไปหน่อย แต่มีศักยภาพเติบโตได้นะครับ....