Wednesday 16 April 2008

เวนเกอร์คือจุดอ่อน


เห็นฟอร์มอาร์เซนอลในเกมเมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมาแล้วบอก ได้คำเดียวครับ ปวดใจแทน อาร์แซน เวนเกอร์ และแฟนบอลอาร์เซนอลเหลือเกิน
สกอร์ไลน์1-2 หลังจบเกม โดยที่ออกนำแมนฯยูฯ ของเซอร์อเล็กซ์ไปก่อนนั้น เหมือนเป็นหนัง ที่ฉายซ้ำวนเวียนหลอกหลอนเหล่าขุนพลทีมปืนโตอีกครั้งหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานพวกเค้าก็ออกนำเชลซีไปก่อน ที่จะโดนแซงกลับมาชนะในสกอร์เดียวกัน อีกเช่นกันในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยิงนำไปก่อนแต่สุดท้าย นิยายน้ำเน่าเรื่องนี้ ก็จบแบบไม่แฮปปี้เอนดิ้งแฟนอาร์เซนอลเท่าไร เพราะเล่นดี มีสไตล์ แต่ไร้แชมป์ติดมือ


ย้อนกลับไปเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ ทีมปืนโตนั้นนำที่สองอย่างแมนฯยูไนเต็ดอยู่ถึง 5 คะแนน และทิ้ง "สิงห์ไฮโซ" เชลซี 8 คะแนน แต่ ณ เวลาที่เพิ่งผ่านล่วงเลยมาแค่สองเดือนเศษๆ สถานการณ์ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด ถึงเวลานี้สถานการณ์อาร์เซนอลนั้น ตามตูดลูกทีมของป๋าเฟอร์กี้อยู่ถึง 9 คะแนนโดยที่เหลือเกมให้ลงเตะอีกเพียงแค่ 4 นัด!!


ครับ ผมกำลังจะบอกว่าการที่พวกเค้า ไม่สามารถเก็บชัยชนะเหนือทีมอสูรแดงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้นั้น ทำให้ฤดูกาลนี้ของพวกเค้าถึงกาลอวสานอย่างเต็มตัวแล้ว และคนที่ต้องรับผิดชอบกับผลงาน สุดบู่ที่เกิดขึ้นนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ เค้าคนนั้นที่ผมกำลังอยากพูดถึงก็คือ อาร์แซน เวนเกอร์ ขงเบ้งลูกหนังชาวฝรั่งเศสนั่นเอง


ใครหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงชี้นิ้ว "โยนความผิด" ความล้มเหลวของอาร์เซนอลในปีนี้ให้เวนเกอร์แทน ที่จะเป็นนักเตะอย่าง วิลเลี่ยม กัลลาส ที่บกพร่องในการเป็น "ผู้นำ" ที่ห่วยแตกที่สุดในรอบหลายสิปปีของสโมสร หรือ ฟิลลิปส์ เซนเดอร์รอส อีกหนึ่ง"บ่อน้ำมัน" ที่ตอนนี้ สตินั้นกระเจิงหลังเกมพ่ายลิเวอร์พูล และสภาพของจิตใจ นั้นบอบช้ำเกินกว่าจะ กลับมาเล่นนัดที่เหลืออยู่ให้อาร์เซนอลได้อีก


ส่วนตัวนั้นผมชื่นชมความสามารถ อันเอกอุในการคุมทีม ของเวนเกอร์มากนะครับ ไม่ว่าจะเป็น สายตาอันแหลมคมในการเลือกดาวรุ่งหลาย ต่อหลายรายมาปั้นจากดินให้เป็นดาวในเวที ลูกหนังโลก แท็กติกส์ และสไตล์การทำทีมก็ทำได้อย่างมีเอกลักษณ์ในตัวเอง เพราะอาร์เซนอลไม่ว่าจะกี่ยุคต่อกี่ยุคภายใต้การคุมทีมของเวนเกอร์ ก็เล่นได้สวยงาม และเอนเตอร์เทนคนดูให้เหมือนถูกต้องมนต์สะกด และทำให้ใครต่อหลายคนแม้จะไม่ได้เชียร์ หรือชื่นชมทีมปืนโตก็ยังอดไม่ได้ที่จะอยากดูพวก ขุนศึกของเวนเกอร์ลงร่ายมนต์ในสนาม


แต่ดั่งที่คำโบราณเคยว่าเอาไว้ครับ ว่า "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" เปลือกนอกนั้นสวยงามน่าหลงใหล ใครๆ ก็อยากจะเด็ดมาดอมดม แต่หารู้ไม่ว่าข้างในลึกๆ แล้วอาจจะไม่ได้สวยงาม และน่าชื่นชมอย่างที่คิด
ภาพความแตกความสามัคคีของสองหัวหอกของทีมอย่าง นิคลาส เบนดท์เนอร์ และเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ในเกมกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ทะเลาะกันในสนามจนเป็นเรื่องราวนั้นคาดว่ายังคงฝังลึกอยู่ในใจแฟนบอลปืนใหญ่ เพราะนอกจากสกอร์ที่พ่ายไป 5-1 จะสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้คนที่ตามเชียร์แล้ว "ทีมสปิริต" ที่อดีตเคยเป็น "ปัจจัยแห่งความสำเร็จ" มาตลอดของทีมได้สลายหายไปจากทีมอาร์เซนอลชุดนี้


การออกมา "กัด" กันเองต่อหน้าสื่อมวลชนของ เยนส์ เลห์มัน ที่คอมเมนต์ มานูเอล อัลมูเนีย อย่างสาดเสียเทเสีย แบบนับครั้งไม่ถ้วนประหนึ่งว่าไม่ได้มองผิดความพลาดของตัวเองในช่วงต้นฤดูกาลที่ทำพลาดง่ายๆ จนเป็นเหตุให้เพื่อนร่วมทีมรุ่นน้อง ถึงกับ "ระอา" ในพฤติกรรมของเลือดเยอรมัน และออกมาขอร้องในเชิงให้เจ้าตัวรูดซิปปาก และตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อม และพิสูจน์ตัวเองในการเป็นมือหนึ่งให้ได้น่าจะเป็นที่การแสดงออกของคนที่เป็นมืออาชีพมากกว่า
ไหนจะการลงไปนั่งหมดอาลัยตายอยากของกัปตันทีม อย่าง กัลลาส หลังเกมที่เซนต์ แอนดรูว์ส หลังทีมทำได้แค่เสมอเบอร์มิงแฮม 2-2 รวมไปถึงการออกมาวิจารณ์ ธีโอ วัลคอตต์ นักเตะรุ่นน้องในทีมว่าเล่นบอลไม่ค่อยมีลูกพลิกแพลงใหม่ๆ และถูกดักทางได้ง่าย ข่าวความไม่พอใจในพฤติกรรมของหัวหน้าทีมรายนี้ นั้นมีออกมาเรื่อยๆ จนไม่น่าจะเป็นแค่ข่าวเต้าเพราะตอนหลังกองหลังเลือดเฟรนช์ ก็ออกมายอมรับเองว่าไม่ค่อยจะมีเพื่อนที่สนิทเท่าไรที่อาร์เซนอล


ก็จะไม่ให้เค้า "แบน" คุณได้ยังไงล่ะครับ ผมแอบคิดในใจหลังเห็นคอมเมนต์ล่าสุดของเจ้าตัวที่ติสต์แตกกับสื่อในเชิง ที่ว่าเค้านั้นเกิดมาเพื่อเป็นนักล่าความสำเร็จอย่างแท้จริง และอาร์เซนอลกับฟุตบอลสไตล์เล่นดีแต่ไม่ประสบความสำเร็จที่เป็น รูปธรรมนั้นก็ควรที่จะต้องเปลี่ยนแนวคิดเรื่อง "ปรัชญา" การเล่นเสียใหม่นับตั้งแต่ต้นฤดูกาลเป็นต้นไป


น้าน....นอกจากหน้าตา (ที่เหมือนกบโดน Teen เหยียบเวลาอ้าปากกว้าง ๆ ^^) และทรงผมจะประหลาดแล้วเนี่ย ความคิดแก ก็ประหลาดไม่แพ้หน้าตานะครับ เพราะคราวนี้ถึงขนาดเริ่มปีนเกลียวกล้าไป วิจารณ์ปรัชญาการทำทีมของเวนเกอร์ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการไปชี้หน้าด่า เจ้านายตัวเองต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้


ผมไม่รู้เหมือนกันครับว่า เวนเกอร์จะออกมาแก้ต่าง ให้กัลลาสอย่างที่เคยทำหรือเปล่า รู้แต่ว่าความแตกร้าวในทีมที่เกิดขึ้น + ความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในฤดูกาลนี้ ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นจากการที่เวนเกอร์ ประเมินค่าทีมตัวเอง "สูงเกินจริง" และประมาท คู่ต่อกรในการชิงแชมป์อย่าง แมนฯยูฯ และเชลซีมากไปหน่อย


เรื่องแรกเลยก็คือการที่ "ตระหนี่" จนเกินเหตุ ไม่ยอมซื้อบิ๊กเนมสักรายสองรายมาเสริม ในช่วงที่เปิดตลาดเดือนมกราคม ทั้งๆ ที่บอร์ดนั้นก็โยนเช็คบุ๊กมูลค่าประมาณ 70 ล้านปอนด์ที่ได้จากกำไรปันผลประจำปีของสโมสร โดยอ้างว่าศักยภาพของทีมที่มีอยู่ในตอนนั้นสามารถประสบความสำเร็จได้ แต่พอถึงช่วง กลางๆ กึ่งท้ายฤดูกาล นักเตะอย่าง โทมัส โรซิคกี้, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และเอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา บาดเจ็บ อาร์เซนอลไม่มีตัวทดแทน และนี้เป็นหนึ่งใน "สาเหตุหลัก" ที่ทำให้พวกเค้าต้อง "แห้ว" ทุกถ้วยในซีซั่นนี้


สอง แต่งตั้งวิลเลี่ยม กัลลาสเป็นกัปตันทีมโดยไม่ได้มองว่า "คุณสมบัติ" เจ้าตัวมีเพียงพอที่จะพาทีมผ่านช่วงคับขัน +สถานการณ์กดดัน และบีบหัวใจได้หรือไม่ อีกทั้งยังเลือกมองข้าม "แบ็กกราวด์"ของกองหลังชาวฝรั่งเศสรายนี้ว่า "แสบ"ขนาดไหนตอนอยู่กับเชลซี (เคยขู่ว่าอาจจะยิงประตูตัวเอง ถ้าเชลซีไม่ปล่อยให้ย้ายทีม + บ่นอิดออดที่มูรินโญ่จับไปยืนแบ็ก) สุดท้ายกัลลาสแทนที่จะประคองเด็กๆ ในทีม กลับเล่นได้ "เขลา" ซ้ำ ยังพลาดทำแฮนด์บอลซะเองในเกมล่าสุด และไม่ได้แสดงคาแรกเตอร์ของผู้นำที่ดีให้เห็นกันเลยตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนี้ต่อจาก จิลแบร์โต้ ซิลวา


สุดท้าย เวนเกอร์ แม้จะขึ้นชื่อว่าสุดยอดในการดึงศักยภาพ ผู้เล่นออกมาใช้ได้ดี อีกทั้งการวางหมากแก้เกมส์ก็ไม่เป็นรองทั้ง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ อัฟรัม แกรนต์ แต่ด้วยองค์ประกอบ หลายๆ อย่างที่ผมยกมาเขียนในฉบับนี้ เมื่อนำแต่ละอย่างมารวมๆ กัน จะพอเห็นภาพรวมนะครับว่า แค่เล่นได้สวยงาม แต่ขาดผู้นำที่ดี, กำลังสำรองที่ดี และสปิริตในทีมที่ดีแล้วนั้น ทีมก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ


ดังนั้นเวนเกอร์ควรต้องยอมลดทิฐิตัวเองลงอีกนิด และรับความจริงที่ว่า อาร์เซนอลไม่มีแชมป์ใด ๆ ติดมือมาจะ 3 ปีแล้ว ฉะนั้นแนวคิดที่จะรอเด็กๆ ชุดนี้โตเต็มที่ทั้งกาย ใจ และยัง หากจะดื้อดึงไม่ยอมเสริมทัพให้แกร่งทั่วแผ่น อย่างแมนฯยูฯ หรือเชลซี + เปลี่ยนกัปตันทีมในซีซั่นหน้าแล้วละก็


คนที่เป็น "จุดอ่อน" ของทีมก็ไม่ใช่ทั้ง กัลลาส, คู่กรณีอย่าง เบนด์เนอร์ - อเดบาร์ยอร์ หรือ "บ่อน้ำมัน" อย่างฟิลลิปส์ เซนเดอร์รอสหรอกครับ แต่จะเป็นตัวอาร์แซน เวน- เกอร์ เองมากกว่าครับ

5 comments:

ธานคับ said...

หวัดดีครับคุณเอก เห็นด้วยเรื่อง กัลลาสครับ นักเตะแบบนี้ซื้อใจลูกทีมไม่ได้ครับ ผมว่า เวนเกอร์พลาดที่ไปปลด จิลแบร์โต้แล้วตั้งกัลลาสเป็นกัปตันทีม ทำให้สปิริตภายในทีมลดลงไป(แต่ก็ดีเนอะ สะใจเจงๆ) ทำให้พวกไอ้น่อลไม่กลมเกลียวเหมือนเดิม

แต่ผมว่าฤดูกาลหน้า ไอ้เน่ามันจะน่ากลัวมากขึ้น เพราะนักเตะหลายคนน่าจะเก๋าขึ้นกว่าเดิม

ส่วนเวนเกอร์นั้นผมว่าแกก็ชะล่าใจไปจริงๆ ที่ไม่ซื้อนักเตะมาเสริมทีม ทำให้ระยะยาวไม่สามารถสู้ แมนยู เชลซี ได้ แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะครับ อิอิ เห็นความล่มจมของมัน ผมก็โครตสะใจ ไม่รู้เป็นอะไรครับ เกลียดไอ้เน่าจริงๆ ขนาดไม่ได้อยู่อังกฤษความรู้สึกพยาบาทยังแรงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพวกแฟนพันธ์แท้สเปอร์สเราที่อังกฤษจะขนาดไหนเนี่ย แวะมาทักทายครับคุณเอก...^-^

เอก อุดมสุข said...

ไม่แน่เหมือนกันนะครับคุณธาน หากนักเตะอย่างฟลามินี่ หรือ คเล็บย้ายออกตามที่มีข่าว อาจจะทรุดกว่าเดิมก็ได้ ^^

tummy said...

โหยไรเนี่ยพี่เอก เขียนเรื่องอาเซน่อลสอง เล่มซ้อน

งอนๆ

หะหะ

เอก อุดมสุข said...

น้อง Tummy ครับ

นี้อาทิตย์หน้าก็จะเขียนเรื่องเกม อาร์เซนอล-เรดดิ้งที่ไปดูมาอีกน่ะ แฮตทริกเลย ^^

เรื่องสเปอร์สเรา ช่วงนี้ไม่รู้จะจับประเด็นไหนมาเขียนดี เพราะว่าไม่มีลุ้นอะไรแล้ว คิดว่าปีหน้า น่าจะได้เขียนถึงเยอะขึ้นครับ :)

ธานคับ said...

ผมแช่งให้ทีมมันย้ายออกไปเยอะๆ อิอิ เกลียดมานนนน แต่ เอ เขียนถึงไอ้เน่าบ่อยจริงๆนะครับ หรือว่าติดใจ สาวที่นั่น อิอิ