Monday 12 November 2007

พาเพื่อนเลิฟตามหารักแท้ ที่แอนฟิลด์!!


ก่อนอื่นต้องขออภัยแฟนคอลัมน์ (ซึ่งมีอันน้อยนิด ^_^) ที่หายหัวจากพื้นที่ตรงนี้ไปเมื่อวันพุธที่แล้วเนื่องจากโรคภัยไข้ที่ชื่อว่าหวัดยังคงตามมาราวีไม่เลิก หนึ่งในสาเหตุหลักนั้นก็เพราะว่าอากาศในกรุงลอนดอนตอนนี้เริ่มหนาวขึ้นและหนาวขึ้นทุกทีจนตอนนี้ หนุ่มวัยย่างเข้าเบจญเพศแบบผมเลยเหมือนซวยซ้ำซวยซาก เพราะนอกจากผลสอบ Mid-termจะไม่แจ่มแล้ว หวัดเจ้ากรรมยังมารังแกอีก T.T

อย่างไรก็ดีหากไม่นับเรืองผลสอบ+อาการป่วยแล้ว วีคที่ผ่านก็มีเรื่องดีๆผ่านเข้ามาเหมือนกัน อย่างเช่นการที่เพื่อนรักสมัย มัธยมปลายมาตามหารัก (แท้และไม่แท้) ไกลถึงที่นี้ (งงใช่ใช่มั้ย ?? จะค่อยๆเฉลยในคอลัมน์นะ) ผมก็เลยรับอาสาเป็นไกด์จำเป็นพามันเที่ยว

โดยทริปแรกทันทีที่มันลงเครื่อง เราก็จับรถไฟสาย Piccadilly line (เส้นรถไฟสายหลักที่นี้) มาเก็บข้าวของสัมภาระที่บ้านผม และก็มุ่งหน้าตามรักแท้เพียงแค่ในวันแรกที่มันเหยียบพื้นแผ่นดินอังกฤษ!!
รักแท้ที่ไอ้เจ้าเพื่อนรักของผมลงทุนเสียเงินและเวลา บินข้ามหน้าข้ามทะเลมาไกลถึงนี้ก็คือ (เฉลยเลยละนะ ) การไปเหยียบสนามแอนฟิลด์ ในเกมเมื่อเสาร์ที่ผ่านที่ทีมหงส์แดงต้องลงรับการมาเยือนของ
“เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่มทีมจากลอนดอนนั่นเอง

ทริปนี้เราไม่ได้ไปกันแค่สองคนตายาย เอ้ย สองเกลอหรอกนะครับ เราได้พี่ๆน้องๆอีกสามท่านเป็นผู้ร่วมเดินทางกับผมและเพื่อน โดยมี “พี่ป๋อง” เจ้าของร้านอาหาร Thai-Thai Café ที่ผมทำงาน Part-time ที่นั้นอยู่เสียสละเวลาอันมีค่ากับครอบครัวในวันเสาร์เป็นโชเฟอร์พาเรามุ่งหน้าสู่เมืองลิเวอร์พูล “พี่สันต์”หรือ J.Bluewater ผู้เขียนหนังสือ “เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยลอนดอน” แฟนหงส์พันธ์แท้ที่ตามไปเชียร์ทีมรักถึงขอบสนามเป็นงานอดิเรกและเพื่อนพี่สันต์อีกหนึ่งท่านชื่อ “คุณต้น”เป็นผู้ร่วมเดินทางของเราในทริปนี้

การเดินทางในครั้งนี้พี่ป๋องทำเวลาได้ไม่เป็นรองเฟอร์นันโด อลองโซ่ หรือ ลิวอิส แฮมิลตัน สองนักแข่ง F-1 ชื่อดังเลยครับ เพราะโชเฟอร์เราทำเวลาจากลอนดอนสู่ลิเวอร์พูลเพียงแค่ 3 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น เราถึงหน้าสนามแอนฟิลด์เวลาประมาณ 14.30 ก่อนเวลาที่คู่นี้จะ “คิกออฟ” ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
(คู่นี้เริ่มเตะเวลา 17.15 เวลาอังกฤษ)

เมื่อเวลาเหลือค่อนข้างเยอะแบบนี้ ผมและเพื่อน อ้อ!! ลืมบอกไป ไอ้เพื่อนรักผมคนนี้ชื่อ “บักนัท”ครับ (แฮะๆ) จึงมีเวลาพากันเดินจับจ่ายซื้อของฝากที่ Liverpool Mega store โดย พี่ป๋อง พี่สันต์ และ เจ้านัท 3 แฟนหงส์ ช้อปกระจายกับของที่ระลึกทั้งในส่วนของ Mega Storec และหน้าสนาม กันไปคนละหลายพันบาท ส่วนตัวผมก็ได้เสื้อ T-shirt สโมสรสีขาวนวลให้คุณพ่อซึ่งเป็นแฟนหงส์มานานหลายสิบปี โดยจากเจ้านัทกลับไปให้ท่านเป็นของขวัญ “วันพ่อ” เดือนหน้าที่จะถึงนี้

ถัดจากช้อป เราก็มาชักภาพถ่ายรูปกับหน้าอนุสรณ์ บิล แชงคลีย์ไว้เป็นที่ระลึกร่วมกันก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าสนาม Press room และ Press box ถึงจะไม่ได้ใหม่และทันสมัยอย่าง เอมิเรต์สเตเดี้ยมของ
อาร์เซนอล แต่ซึ่งที่ผมรู้สึกได้ก็คือ ความเก่าแก่และมนต์ขลังของสนามที่ยังเอกลักษณ์ของสนามฟุตบอลสไตล์อังกฤษแท้ๆ

เสียงเพลง You’ll never walk alone ได้ดังขึ้นก่อนเริ่มเกมตามธรรมเนียมของที่นี้ โฆษกสนามประกาศรายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม และทุกครั้งที่เรียกชื่อนักเตะฝั่งเจ้าถิ่นแฟนบอลลิเวอร์พูลจะส่งเสียงและปรบมือเป็นกำลังให้นักเตะของพวกเค้า หลายคนอาจจะคิดว่าแปลกตรงไหนที่แฟนบอลจะส่งเสียงให้กำลังใจนักเตะของพวกเค้า??


แต่ อืม…ผมไม่รู้สิครับ ผมรู้สึกได้ว่าที่นี้ มันแตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ เสียงเชียร์ และความขลังของที่นี้

ในเกมนี้ พลพรรคหงส์แดงซึ่งพึ่งยิงเบซิคตัส ไส้ไหลไปเมื่อกลางสัปดาห์ก่อน 8-0 ยังคงผู้เล่นชุดเดิมไว้ หาไม่ใช้ “โรเตชั่น”เหมือนทุกที เอลราฟากำลังคิดอะไรอยู่? ผมแอบตั้งคำถามให้ตัวเองในใจเมื่อเห็นไลน์อัพ ของทีมในเกมนี้ และยอมรับโดยดุษดี ครับว่า “ใจ เอลราฟานั้น ยากแท้จะหยั่งลึก” เพราะไม่ว่าแกจะคิดหรือทำอะไร คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นนักเตะ หรือแฟนบอลก็ดี ไม่สามารถเดาใจกุนซือชาวสแปนิชคนนี้ได้ถูกเลย ให้ตายเถอะ จอร์จ !!

ในส่วนของรูปเกม คาดว่าท่านผู้อ่านคงจะเห็นอย่างที่ผมเห็นครับว่า ขุนพล “เรด แมชชีน”นั้นเป็นฝ่าย “กระทำ” อยู่ข้างเดียว โดยฟูแล่มของกุนซือมาดติ๋ม ลอว์รี่ ซานเชส ได้ตั้งรับและรอสวน ซึ่งความพยายามของแกและแนวรับของฟูแล่มก็เกือบจะเป็นผล เพียงแต่ว่า เกมนี้ผู้เล่นที่ “ฟ้าสร้างมา” อย่างตอร์เรส ซึ่งลงมาในนาทีที่ 70 และตั้งแต่นั้นผมเองรู้สึกได้เลยครับว่า เกมนี้ลิเวอร์พูลจะไม่แพ้

นั้นก็เพราะทุกสัมผัสที่ตอร์เรสได้บอล หรือจะเป็นการ Movement หาพื้นที่ เมื่อบวกทักษะที่เจ้ามีอยู่แล้ว มันทำให้แนวรับฟูแล่มทุกคนต้องคอยระแวงและเหมือนโดน “ต้องมนต์” อย่างประตูแรกในนาทีที่ 81 เราจะเห็นได้ครับว่า การเตะบอลเคลียร์ออกมาของ โฆเซ่ เรน่า นั้นเหมือนจะ ไม่มีอะไร แต่ ตอร์เรสกลับทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายๆ ทั้งๆที่ตลอดทั้งเกมหลังฟูแล่มนั้นจัดโซนกันเป็นระเบียบ แต่มาโดน “ความเหนือชั้น” แบบนี้ ก็น่าเห็นใจละครับ

ถึงตอนนี้แฟนบอลในสนามทุกคนรวมถึงตัวผมเอง มั่นใจเลยครับว่า เกมนี้ไม่มีพลิกล็อคแน่นอนและแม้ลูกจุดโทษในนาทีที่ 85 อาจเป็นที่ถกเถียงว่าฟาวล์ในเขตหรือ นอกเขต ตรงจุดนี้คงไม่มีแคร์แล้วครับเพราะว่าอย่างที่เห็นอยู่ว่ารูปเกมทั้งเกมนี้นั้นลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายไล่ชกคู่แข่ง ถ้าเป็นมวยก็คงต้องแพ้คะแนนแบบขาดลอยแน่นอน

ความแตกต่างด้านความเฉียบคมระหว่าง ตอร์เรส และ โวโรนินได้ถูกตั้งเป็นประเด็นตามบอร์ดและกระทู้ของแฟนบอลที่นี้ แต่ส่วนมากเท่าที่สรุปได้ สองคนนี้เป็นที่ชื่นชอบมากกว่า เดิร์ค เคาท์ ที่แม้จะได้เรื่องของความขยัน+ทุ่มเท แต่เรื่องความคล่องตัว ความเร็ว ยังไม่ถูกใจแฟนบอลที่นี้สักเท่าไร
เอาละครับ อย่างไรก็ดี 3 แต้มเน้นๆแบบนี้ในถิ่นตัวเองถือว่า “สอบผ่าน” และผมให้คะแนนลิเวอร์พูลเกมนี้ 10 เต็ม 10 โทษฐานที่ มีแฟนบอลสุดยอด+บรรยากาศในสนามของเค้าก็เก่าแก่และมีมนต์ขลังสมดังคำ
ล่ำลือจริงๆ

ก่อนตีรถกลับลอนดอน พวกเราทั้ง 5 คนยังไม่รีบร้อนครับ เพราะพี่สันต์และพี่ป๋อง โชเฟอร์ของเรายังอยากช้อปต่อใน Mega store เพราะรอบแรกที่เข้ามานั้นคนแน่นเหลือเกิน ผมเองถึงแม้จะเหนื่อยเพลียจากการต้องตื่นเช้าไปรับเพื่อนที่สนามบิน Heathrow แต่ก็ไม่ขอขัดจังหวะพี่ๆช้อปปิ้งครับ เพราะนานๆเราจะได้มาไกลกันถึงลิเวอร์พูลสักที


เข้าไปในรอบ Store รอบนี้นอกจากจะเจอสาวๆจากเมืองไทยหน้าตาจิ้มลิ้มที่บังเอิญเจอกันในก่อนออกจากสนาม หนึ่งในสมาชิกร่วมเดินทางของเรา ก็โชว์ “เสือ” ด้วยการเข้าไปทักทายและได้แลกเบอร์และอีเมลกันไว้อีกตังหาก(ขอไม่เอ่ยนาม นะครับ เดี๋ยวเค้าบ้านแตก ^_^ )

โดยรวมแล้วถือว่าทริปนี้ เป็นทริปที่สนุกแต่แอบเหนื่อยจากการเดินทาง (โดยเฉพาะคนขับ) ทีนี้ ก็เหลือแค่สนามโอลด์แทร็ฟฟอร์ดที่เดียวแล้วละครับ ที่เป็นทีม “ท็อปโฟร์” ทีมเดียวที่ผมยังไม่ได้ไปเหยียบถึงสนาม


Ps.มิชชั่นต่อไปของผมคือเป็นไกด์พา “เจ้านัท”ตามหารัก(ไม่แท้) ตามที่เกริ่นไว้ในคอลัมน์ข้างต้นนะครับ ยังไงอาทิตย์หน้าจะมาเฉลย รักแท้หรือรักหลอกที่ว่า + อากาศที่เมืองไทยเปลี่ยน รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


2 comments:

ธานคับ said...

อิจฉาคุรเอกจริงๆ ที่ได้ดูบอลติดขอบสนามบ่อยๆ แวะมาเยี่ยมคร้บ ^-^

เอก อุดมสุข said...

Hi krab K'Than

Thx for visiting my blog krab !!

Tk care krab