Wednesday 6 August 2008

คู่หน้าใครคมกว่า จะพาทีมเถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีก

รอบอาทิตย์ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่ชีวิต ของผมใน ประเทศอังกฤษยุ่งเหยิง พอสมควรครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สอบที่มหาวิทยาลัย จัดของแพ็คกระเป๋าเตรียมตัว ไปฮอลิเดย์เมืองไทยตามด้วยต่อ License ของ ‘คิกออฟ’ กับ ‘เอฟเอ’ เพื่อที่จะได้มาซึ่ง League Photo ID Cards (บัตรนักข่าวของซีซั่นนี้) + ต่ออายุ Journalist Insurance (ประกันภัยผู้สื่อข่าว) ที่หมดลงไป และมาเร่งทำสองอาทิตย์สุดท้ายก่อนกลับ
ถึงตอนนี้คิด ว่าทุกอย่างน่าจะ จบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เพราะประกันภัยก็ต่อไปแล้ว สอบ และรายงาน กองโตก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เหลือก็แต่รอบัตร Press card เนี่ยแหละครับ ไม่รู้ว่าจะทันได้รับก่อน จะกลับไทยวันเสาร์นี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง

ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และท้าทายดีสำหรับผมครับโดยเฉพาะ เรื่องการต่อไลเซนต์กับ Football DataCo Ltd หนึ่งในองค์กรย่อยของเอฟเอ พรีเมียร์ลีกซึ่งทำหน้าตรวจเช็ครายละเอียดข้อมูล และ ‘มอบอำนาจ’ ให้ Third party หรือ ’สื่อ’ (ซึ่งในที่นี้ก็คือ “คิกออฟ”) มีสิทธิ์ได้เข้าไปชมฟุตบอลลีกของ ที่นี่โดยกฎเกณฑ์หลัก ๆ นั้นก็เหมือนเช่นเคยครับที่ นักข่าวต้องแฟกซ์ หรืออีเมล์ยื่น ความจำนงไปว่าอยากจะเข้าชมเกมไหนเป็นครั้ง ๆ ไป ไม่มีการจองล่วงหน้า หลังจากนั้นวันสองวันก่อน ‘แมตช์เดย์’ ก็จะได้ ‘คำตอบ’
จากสโมสรที่เราติดต่อไปว่าจะได้ ‘ที่นั่ง’ ในเกมนั้น ๆ หรือไม่
จากประสบการณ์ในซีซั่นที่แล้ว หากเป็นเกมใหญ่ ๆ อย่างคู่ แมนฯยูฯ-ลิเวอร์พูล หรืออาร์เซนอล-สเปอร์ส โอกาสที่จะได้ตั๋วสำหรับสื่อเอเชียหัวดำก็อาจจะน้อยลงไป ตามกฎเกณฑ์ที่พอจะเข้าใจได้ว่า ต้องให้พื้นที่สื่อเจ้าถิ่นก่อน อย่างไรก็ดีครับ ไม่ใช่ว่าคู่ใหญ่ ๆ จะไม่มีโอกาสได้เอาซะเลย เพราะปลายซีซั่นที่แล้วอย่างคู่ อาร์เซนอล-ลิเวอร์พูล ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ผมก็ ‘ฟลุ๊ค’ ได้ที่นั่งมาเหมือนกันนะ : )
ก่อนหน้านี้ยอมรับตามตรงว่าเกือบทุกอย่างนั้นมี ‘ใหม่ โมบาย’ หรือเฮียใหม่ ที่ตอนนี้ผ่านการ อบรบโค้ชฟุตบอลทั้งที่ David Beckham Academy และล่าสุดก็เพิ่งไปสอยใบ ประกาศจากบราซิลมาอีกใบ เป็นคนดูแล และช่วยเหลือเรื่องการติดต่อ ประสานพวกนี้ให้ตลอด ในช่วงที่ผมอยู่ในช่วง ‘เริ่มหัดเดิน’ จากนี้ไปก็คงถึงเวลาที่ต้องยืนด้วยลำแข้ง ตัวเองเสียทีครับหลังจากทำตัวเป็นภาระให้แกมานาน
จำได้แม่นว่าช่วงที่มาอังกฤษใหม่ ๆ จะหาบ้าน ย้ายบ้าน หรือแค่อยากรู้ว่าร้านอาหาร ไหนดีไม่ดีก็ได้เฮีย แกนี่แหละครับช่วยไว้ จริง ๆ ก็เกรงใจนะครับ ที่ต้องรบกวนแกบ่อย แต่เพราะ ผมถือคติที่ว่าแกอยู่มานาน น่าจะช่วยผมได้ ฮ่า ๆ (แย่เนอะ...ว่ามั๊ย?)
ส่วนเรื่องของฟุตบอลอังกฤษ ณ.นาทีนี้ ผมยังคงติดตาม ‘ดีล’ ของคริสติอาโน่ โรนัลโด้ อย่างใกล้ชิดเหมือนเช่นเคยครับ สาเหตุหลักก็เพราะส่วนตัวเชื่อว่า ดีลนี้จะมี เอฟเฟกส์ โดยตรง กับทิศทางของสเปอร์สทีมในดวงใจว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะถ้าหนูโด้ซึ่งกำลังจะ กลับไปพบหน้าเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่แคมป์ผีแดง เคลียร์ปัญหาหัวใจกันได้ แล้วตัดสินใจอยู่ค้าแข้งกับทีมต่อก็จะหมายความว่าโอกาสที่เบอร์บาตอฟจะ อยู่ล่าตาข่ายในเล้าไก่ต่อไปจะมีโอกาสเป็นไปได้สูง
ในทางกลับกัน หากปีกเทพเลือด ฝอยทองยังจะดื้อดึง ยืนยัน นอนยันว่ายังไงหนูก็จะไปค้าแข้งที่สเปนกับรีลมาดริด เชื่อได้ว่าจอมคนเลือดสกอตอย่างเฟอร์กูสัน ก็คงไม่ง้ออีกแล้ว และจะยอมหั่นสะบั้นความสัมพันธ์ฉันพ่อลูก และยอมปล่อยออกไปพร้อมกับเงิน ก้อนโตไม่ต่ำกว่า 60 ล้านปอนด์อย่างแน่นอนซึ่งนั่นก็จะหมายความว่าเรา จะได้เห็นเบอร์บาตอฟในชุดแดงเพลิงเช่นกัน
ซึ่งถ้าหวยออกมาแบบนั้น สเปอร์สของฆวนเด้ รามอสก็จะได้ Budget ราว ๆ 30 ล้านปอนด์ออกช็อปปิ้งอีกคำรบพร้อมถอยโปรเจค ‘สอยบีญ่า ล่าฝันบิ๊กโฟร์’ มายืนเป็นหอกคู่ ดาร์เรน เบนท์ สากเลี่ยม ทองค่าตัวแพงระยับที่ไม่รู้กินยาอะไรผิดในช่วงฟุตบอลปิดเทอม ยิงเหมือนเก็บกด อะไรไว้ไม่ทราบ พ่อสอยไปซะ 10 โกล์ จากการลงเล่น 5 นัดในช่วงที่ผ่านมา
ยิงแบบนี้ผมก็ได้แต่จุดธูป สวดมนต์ปนภาวนา ให้พ่อเบนท์เป็นหอก นิลกาฬที่ยิงได้แบบนี้เรื่อย ๆ นะ...สาธุ ไหน ๆ ก็พูดถึงผู้เล่นในตำแหน่ง กองหน้าแล้ว ผมเชื่อ + ขออนุญาติฟันธงล่วงหน้าเช่นเคยนะครับว่าปีนี้ ทีมไหนที่กองหน้าเล่นได้แบบมองตาก็รู้ใจคู่ขามากที่สุด ทีมนั้นจะ มีโอกาสสอยพรีเมียร์ชิพโทรฟี่มาครอบครอง...โดยสมมุติฐานนี้ ผมขอเลือกมาจากแค่ 4 ทีมจากบิ๊กโฟร์เท่านั้นนะครับ
พาร์ทเนอร์คู่แรกที่อยากพูดถึงในวันนี้ คิดว่าน่าจะเป็นคู่หน้าที่หลายคนนั่งนับวันให้พรีเมียร์เปิดเร็ว ๆ เพราะอยากดูการประสานงานกัน มากน่าจะเป็นคู่ คีน-ตอร์เรส นะครับ เพราะดูจากสไตล์ของทั้งคู่ บวกสถิติส่วนตัวของแต่ละคนที่สะสมมา ทั้งคู่น่าจะการันตีอย่างน้อย ๆ 40 ประตูให้หงส์แดง ลิเวอร์พูล แน่นอน
อย่างไรก็ดีครับผมเชื่อว่า สุดท้ายแล้วแม้คีนจะปรับตัวได้เร็วในรั้วแอนฟิลด์ แต่สุดท้ายผมยังเชื่อว่าแนวรับ และ ปรัชญาการทำทีมของราฟา เบนิเตซ ยังไม่เหมาะกับแชมป์ที่ต้องลุ้นกันไปยาวๆอย่างพรีเมียร์ชิพครับ
คู่ที่สอง ทีมผีแดงส่งเข้าประกวดคือคู่ รูนี่ย์-เตเบซ สองคนนี้ดูจากสรีสะ และสไตล์การเล่นดูเหมือนจะไปกันไม่ได้ แต่ก็อย่างที่เรา ๆ ท่าน ๆ ประจักษ์สายตากันไปแล้วว่า ทั้งคู่เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก แม้ว่าในปีที่ผ่านมาสองคนนี้จะโดนจับยืนตำแหน่งด้านข้างซะเยอะ แต่ซีซั่นใหม่ที่จะถึงนี้ หากหนูโด้มีอันต้องโบกมือลาทีมไปจริง ๆ ผมเชื่อครับว่า สองหน่อร่างตันนี้จะไม่ทำให้แฟนผีแดงร้องไห้ คร่ำครวญคิดถึงปีกสุดหล่อนานนัก เพราะไหนจะมีเทพ เบอร์บาตอฟเข้ามาเสริมอีก ดังนั้นผีแดงยังไงก็เป็น ‘เต็งหนึ่ง’ ในใจผม
ถัดมาเป็นคู่หอกสองสี สองสไตล์ ที่เจ๊เวนเกอร์ส่งเข้าประกวดครับ โรบิน ฟานเพอร์ซี่ และเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ที่คนนึงก็เซนส์บอลดี บวกเท้าซ้ายที่แม่นราวกับจับวางหากว่า On form มานี่หาตัวจับได้ยากมาก (มีข้อแม้ว่าต้องฟิตนะ) ขณะที่อีกคนก็เป็นกองหน้าในฝันของกุนซือทุกคน เพราะมีความใหญ่ ไว คม และเทคนิคดี แม้หากดูจากสภาพทีมโดยรวม เดอะ กันเนอร์สจะเสียตัวหลัก ๆไปพอสมควร แต่เท่าที่ได้เห็นฟอร์มแบบคร่าว ๆ ในเอมิเรตส์ คัพ แล้ว “ยังบลัด” ที่เวนเกอร์เตรียมดันขึ้นมานั้นขอบอกเลยครับว่าไม่ธรรมดา และเจเนอเรชั่นชุดนี้จะพาอาร์เซนอลให้ได้ลุ้นไปยาว ๆ แน่นอนในพรีเมียร์ชิพปีนี้
คู่สุดท้ายเป็นสิงห์ไฮโซ ส่งเข้าประกวดครับ เป็นหอกดำทะมึน แต่ท็อปคลาสด้วยกันทั้งคู่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันให้เสียเวลานะครับ เพราะว่ามีคุณสมบัติกองหน้าที่ดีครบทุกอย่างเหมือนกับอเดบาบอร์ ขณะที่พาร์ทเนอร์ของเค้าถึงตอนนี้น่าจะเป็น นิโคลาส์ อเนลก้า ที่แม้จะดับไม่เป็นท่ากับซีซั่นแรก ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ เพราะโดนจับไปเล่นปีกมั่ง กองหน้ามั่ง แต่ฟอร์ม ณ ปัจจุบันของหอกอารมณ์ติสด์ ชาวฝรั่งเศษรายนี้นั้นยิงกระจายโดยเฉพาะเกมล่าสุดที่สอยไปสี่ตุง ในเกมกับมิลานนั้นทำให้ผมเชื่อมั่นครับว่า อเนลก้าจะกลับมาเล่นได้ดีขึ้นแน่นอนในฤดูกาลหน้า
ยิ่งถ้าสิงห์บลูได้โรบินโญ่มาเสริมแนวรุกจริง ๆ อย่างที่เป็นข่าว เชลซีนี่แหละครับคือผู้ท้าทายตำแหน่ง แชมป์ในปีนี้กับแมนฯยูไนเต็ด อย่างแท้จริงครับ..

5 comments:

ธานคับ said...

หวัดดีครับคุณเอก อิจฉาประสบการณ์คุณเอกในอังกฤษจริงๆครับ ได้ทำข่าว ดูฟุตบอลที่ชอบ แถมได้ไปดูทีมรักในสนามอีก อิจาครับ

เรื่องกองหน้า ผมมองว่า ปีนี้ ตอร์เรส ไม่น่าจะออตเหมือนเดิม ส่วน คีน คงโดนปรับไปมา จนหาตำแหน่งถนัดไม่เจอกับระบบโรเตชั่นของราฟา

ส่วนแมนยู ผมว่า ดูน่กลัวดีเหมือนกัน ส่วนเชลซ ผมว่าธรรมดาแล้วครับ น่าจะอยู่ในช่วงขาลง

ที่น่ากลัวที่สุด คือ ไอ้บายอ กับ ฟาน เพอร์ซี่ คู่นี้ล่ะครับ ผมว่าน่ากลัวสุด

ส่วนอีกคู่ถ้าเล่นด้วยกัน ผมว่าน่ากลัวใช่ย่อยครับ ระหว่าง เทพตอฟ กับ ดอส ซานโตส อิอิ

เอก อุดมสุข said...

ผมกลับกลัวเชลซีอ่ะคับ ไม่รู้สิ ผมว่าบิ๊กฟิลคนนี้ ไม่ธรรมดาเลยนะ ทั้ง
ฝีไม้ลายมือ และประสบการณ์

ส่วนลิเวอร์พูลคิดคล้ายๆกันเลยฮะ สุดท้ายหงส์ยังไม่น่าจะไปได้ไกล

Anonymous said...

ขอบคุณครับคุณเอก ที่อนุญาตให้นำ blog ลงเวบได้
ขอบคุณคุณ ธานเหมือนกันครับ
เป็นว่า เขียนตามนี้ไปเลยครับ ผมว่างๆ ผมจะมานั้น
copy ไปไว้ที่บอร์ด spursthailnad.net เองครับ

แล้วให้ credit มาที่ link ของบอร์ดทั้งสองคนครับ

เอก อุดมสุข said...

ยินดี และ ขอบคุณมากครับ ทั้งคุณธาน และคุณเปา ^^

Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ สำหรับบทความดีๆ