Wednesday 5 December 2007

สเปอร์สแพ้ กรรมการขโมยซีน???


ผมยอมรับว่าตัวเองโชคดีครับที่ทางเจ้าหน้าที่ของ สเปอร์สส่งอีเมล์มาบอกว่าจะไม่มีที่นั่งสำหรับผมในเกม สเปอร์ส-เบอร์มิงแฮม เนื่องจากจำนวนนักข่าวที่เข้าชมในเกมนี้มีมากจนเกินไป

นี่ถือเป็นครั้งที่สองแล้วครับที่ผมโดน Turn down หรือปฏิเสธจากสโมสรในลอนดอน โดยครั้งแรกนั้นเป็นฟูแล่มครับ ที่แจ้งผมโดยอ้างสาเหตุเดียวกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเท่าที่ผมพอจะ "สรุปความ" โดยอาศัยการสังเกตความเปลี่ยน แปลงในฤดูกาลนี้ก็คือ มีนักข่าวจากเอเชียบ้านเราเพิ่มขึ้นเยอะจริง ๆ ครับ

ชาติที่ส่งนักข่าวมาประจำการที่ประเทศอังกฤษเพิ่มขึ้นมา "เยอะ" จนน่าตกใจนั้นน่าจะเป็นนักข่าวจากเกาหลีครับ สาเหตุนั้นน่าจะ มาจากว่ามีนักเตะจากแดนโสมขาวหลายราย อาทิเช่น ปาร์ค จี ซุง, ลียอง เปียว หรือ โซล คี เฮือน บุกมาโกยเงิน+ประสบการณ์ ให้ทีมชาติของพวกเค้าในพรีเมียร์ชิพทุกวันนี้

จำได้ครับว่ามีครั้งหนึ่งไปสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อชมเกม ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ เชลซี-ฟูแล่มเมื่อตอนต้นฤดูกาล ครั้งนั้นไม่ทราบว่าเป็นเพราะ Sumsung แบรนด์ดังจากเกาหลีเป็นผู้สนับสนุนหลักของเชลซีในปีนี้หรือเปล่าไม่ทราบครับ แต่เกมนั้นนักข่าวจากแดนโสมขาวนั้นเยอะมาก และบางรายไม่รู้ว่าใช้ "อภิสิทธิ์" ตรงนี้หรือเปล่าพาแฟนสาวเข้าไปนั่งชมเกมแถมยังแอบ "จู๋จี๋ ดู๋ดี๋" ให้คน (โสด) ที่นั่งข้างๆ อย่างผมแอบตาร้อนผ่าว ไม่เป็นอันดูเกมเลย ^_^

ส่วนเรื่องที่บอกว่าตัวเองนั้น "โชคดี" ที่ไม่ได้เข้าชมเกมนี้ก็เพราะว่า มันคง "ช้ำ"น่าดูครับที่ต้องมานั่งชมเกมที่ทีมรักโดน "ถอนขน" คาบ้านตัวเองแบบนี้

เฮ้อ..พูดแล้วก็ขออนุญาตถอนหายใจยาว ๆ สักหนึ่งทีนะครับ เพราะว่าก่อนเกมดันไปทะลึ่งทำเปรี้ยว ประกาศกับเพื่อนในกลุ่มว่า "สเปอร์สไม่แพ้เบอร์มิงแฮมแน่นอน ถ้าแพ้ตรูให้เตะ!!"

ไอ้สาเหตุที่เปรี้ยวเกินพิกัด และมั่นใจว่าสเปอร์สจะไม่แพ้ในเกมนี้ก็เพราะว่า ผมเชื่อมั่นในตัว ฆวนเด้ รามอส มากครับ เพราะตั้งแต่แกเข้ามาคุมทีม "น้องไก่" ยังไม่พานพบกับความพ่ายแพ้เลยแม้แต่นัดเดียว

หลังจากอาทิตย์ที่แล้วสเปอร์สไปยันเสมอเวสต์แฮมได้อย่างสุดมัน 1-1 รวมไปถึงการเชือด อัลบอร์ก จากเดนมาร์ก 3-2 เมื่อกลางสัปดาห์ ผมยอมรับครับว่า "กุนซือหน้าตาย" ชาวสแปนิชรายนี้มีปรัชญาฟุตบอลเน้น "เกมรุก" อย่างที่แกประกาศไว้ในวันแรกทันทีที่เหยียบถิ่น ไวท์ฮาร์ทเลน จริงๆ

เท่าที่ผ่านมาต้องยอมรับครับว่าเรื่องความ "ใจถึง" ในการเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นรวมถึงตัวนักเตะระหว่างเกมนั้น แก "ได้ใจ"แฟนสเปอร์สไปพอสมควร เพราะหากเปรียบเทียบกับ มาร์ติน โยล กุนซือคนก่อนแล้ว แฟนๆ ต้องรอแล้วรออีกกว่าลุงโยลจะเปลี่ยนแปลงทีมแต่ละที

ผิดกับฆวนเด้ ที่ "กล้าคิด กล้าทำ" กว่าโยลพอสมควร อันนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง ที่แฟนสเปอร์สหลายๆ คนรวมทั้งถึงตัวผมเองนั้นถือว่าเป็น "สัญญาณที่ดี" ที่ทีมจะได้ลุกขึ้นมายืนเดินหน้าเก็บชัยชนะได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ดีครับ ในเกมกับเบอร์มิงแฮมเมื่อวันอาทิตย์ที่ ผ่านมา ผมไม่อาจกล่าวได้ว่า "แท็กติกส์" 4-3-3 ของรามอส ในเกมนี้ "ผิดพลาด" เพราะแนวรุกนั้นก็ดูดี และมีจังหวะเข้าทำได้สวยๆ หลายต่อหลายครั้ง
ในมุมกลับกันผมมองว่า เป็นความผิดพลาดของแผงหลังสเปอร์ส (อีกแล้ว) ที่ทำให้ ทีมต้องพ่ายคาบ้านต่อเบอร์มิงแฮมที่หากเปรียบเทียบ ในเรื่องของ "ชื่อชั้น" และ "ตัวนักเตะ" แล้วเป็นรองฝั่งสเปอร์ส อยู่ไม่น้อย
อย่างในประตูแรกที่เสียนั้นถือเป็นว่าเป็นความผิดพลาด ของ ยูเนส คาบูล อีกครั้งหลังจาก ที่เมื่อวีกก่อนก็เพิ่งสะเหร่อจ่ายบอลผิดพลาดให้กองหน้าเวสต์แฮมฉกไปกินง่ายๆ โดยเกมนี้กัปตัน U-21 ของฝรั่งเศสก็ไปฟาวล์ แกรี่ แม็คเชฟฟรี่ ร่วงลงในกรอบเขตโทษสเปอร์ส อีก

จริงๆ แล้ว ช่วงที่คาบูลย้ายมาแรกๆ ผมว่าหน่วยก้าน และ เบสิกบอลของคาบูลดีพอจะเป็นกองหลัง ที่โด่งดังในอนาคตได้เลยนะครับ แต่ด้วยภาระความกดดันของนักเตะวัยเพียง 21 แต่ต้องมาแทนตำแหน่งที่หายไปของ เลดลี่ย์ คิงที่เจ็บยาว (และมีข่าวลือว่าถึงกับต้องอาจแขวนรองเท้า!!) มันดูจะ "หนัก" ไปหน่อยสำหรับนักเตะวัยขนาดนี้ ที่สำคัญก็ต้องไม่ลืมว่าเจ้าตัวเพิ่งจะย้ายจากฝรั่งเศสด้วย ฉะนั้นคงต้องให้เวลาหมอนี้อีกหน่อยในการปรับตัวให้เข้ากับบอลเร็วๆ ของอังกฤษ

ครึ่งเวลาหลังการเปลี่ยน "แท็กติกส์" ของรามอสดูเหมือนจะได้ผลครับหลังร็อบบี้ คีนยิงเบิ้ลสองประตูรวด และสเปอร์สพลิกมาแซงเป็น 2-1
แต่ "จุดเปลี่ยน"ที่ทำให้เกมนี้ต้องจบแบบ "หักมุม" นอกเหนือจากลูกตะบันไกลสุดสวยของ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ที่ "ผีจับยัด" ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแล้ว ผมมองว่า การตัดสินของ ฟิล ดาวน์นั้น "รุนแรง" ไปหน่อยที่ฟัก เอ้ย...ควัก ใบแดงให้กับ ร็อบบี้ คีนในจังหวะที่เข้าไปเสียบสกัดบอลจาก ฟาบริซ มูอัมบ้า

หากสังเกตให้ดีๆ ในจังหวะนั้นจะเห็นครับว่า ดาวน์ นั้นปรึกษากับผู้ตัดสินที่ 4 อย่าง ยูไรห์ เรนนี่ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยืนอยู่ใกล้ๆ กับ "จุดเกิดเหตุ"!! "ยืนอยู่ข้างหน้าแท้ ๆ ดันไปถามคนอื่นเค้า ลุงดาวน์เอ้ย" ผมแอบอุทานในใจหลังแกควักใบแดงให้คีน

10 คน ในช่วง 20 นาทีสุดท้าย และยังโหมบุกกะฟัน 3 คะแนนต้องยอมรับครับว่า การเสี่ยงของรามอสในวันนั้น "เสี่ยงเกินไป" และแนวรุกที่ปราศจาก ร็อบบี้ คีนนั้นต้องบอกว่า "ดีแต่ป้อ ล่อไม่เป็น" ครับ โดยเฉพาะ เจอร์เมน เดโฟ ในเกมนี้

สเปอร์สพ่ายไปในเกมนี้ ผมจึงพอจะสรุปได้ว่า เบอร์มิงแฮมนั้นมาดีเกินคาด ขณะที่ "ใบแดง"ของ ร็อบบี้ คีน ในเกมนี้ถือว่า "เปลี่ยนรูปเกม" พอสมควร

ขณะที่แนวรับที่เป็นจุดอ่อน และเสียประตูแบบไม่ควร จะเสียอยู่บ่อยๆ น่าจะทำให้รามอสที่ประกาศว่าจะ ไม่ซื้อเพิ่มในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคม เมื่อวีกที่แล้วอาจเปลี่ยนใจกระโจนเข้าไปหาแผงหลังประสบการณ์สูง ราคาไม่แพงมาเสริมทีมสักคน เพราะแบ็กโฟร์ที่มีอยู่ตอนนี้อย่าง ดอว์สัน, คาบูล หรือแกเร็ธ เบล นั้นยังดูยังอ่อนประสบการณ์ เกินไปกับแนวรุกเขี้ยวๆ ในพรีเมียร์ชิพ

เกมกับอันเดอร์เลชท์ คืนพรุ่งนี้น่าสนใจครับว่า ฆวน เด้ รามอส จะจัดทีมแบบไหน และจะจัดการกับแนวรับ ที่อ่อนปวกเปียกระดับกระดาษทิชชูชุ่มน้ำได้อย่างไร??


ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 3051

1 comment:

ธานคับ said...

ยังเซ็งกรรมการไม่หายเหมือนกันครับ ส่วนคาบุลผมว่าต้องให้เวลาหน่อยครับ พึ่งย้ายมาฤดูกาลแรกเอง แถมอายุยังน้อย รอเวลาปรับตัวอีกหน่อย

ผมว่าถ้าคาบุลยืนคู่ คิง น่าจะเหนียวขึ้นนะครับ แวะมาทักทายคุณเอกครับ