Saturday 22 March 2008

เมื่อ Free-Flowing Football ของอาร์เซนอลโดนดักทาง


หลังจากที่ล่อแหลมต่อการที่จะเสียตำแหน่ง จ่าฝูงให้ทีมผีแดง มาหลายครั้งหลายหน ในที่สุดอาร์เซนอลของ อาร์แซน เวนเกอร์ก็เครื่องสะดุดไม่ชนะใครในลีกต่อไปเป็นนัดที่ 4 นัดติดต่อกัน และทำแต้มสำคัญในบ้านหลุด มืออีกจนได้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลัง ทำได้แค่เสมอกับมิดเดิลสโบรห์ 1-1 ทั้งๆ ที่เมื่อสองอาทิตย์ก่อนหน้านี้ พวกเค้าเพิ่งจะโชว์ฟอร์ม "สุดเทพ" ช็อกแฟนบอลทั่วโลก ด้วยการบุกไปปราบ เอซี มิลาน ถึงซานซิโร่ 2-0 ตบเท้าเข้ารอบ Quarter-Finals ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่าง อลังการสมราคา "เด็กสร้างเจ๊เวน"
แต่ก่อนจะเข้าบทวิเคราะห์หลัง เกมนี้ มีเรื่องจะเมาธ์ (ตามฟอร์ม) ครับ เพราะว่าช่วงเช้าวันเสาร์ก่อนบุกไป เอมิ- เรตส์ สเตเดี้ยม เพื่อชมเกม อาร์เซนอล-โบโร่ นั้น ผมมีโอกาสไปเหยียบสนาม "นิวเวมบลีย์" เป็นครั้งแรก!!
ดีใจมากมายครับ เพราะว่าไม่ได้แค่ไปหน้าสนาม ถ่ายรูปแล้วกลับบ้าน หากแต่ว่าได้เข้าไปถึง VIP Zoneเลย... หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่า วันเสาร์โน้นมีแมตช์เล่นที่เวมบลีย์ ด้วยเหรอ?
เปล่าหรอกครับ ที่ไปในครั้งนี้นั้น ผมไป Game Event ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ โดยปีนี้ Play.comจัดแข่งขัน เกม Pro Evolution หรือที่บ้านเราเรียกว่า "วินนิ่ง อีเลฟเว่น" เกมฟุตบอลสุดฮิตชิงเงินรางวัล 50,000 ปอนด์ หรือตกเป็นเงินไทยก็ราวๆ 3.5 ล้านบาทเท่านั้นเอง!!!
ครับคุณผู้อ่านไม่ได้ตาฝาด และผมไม่ได้เขียนผิด เงินรางวัลของผู้ชนะนั้นถ้าอยู่เมืองไทยก็เอาไปซื้อรถ + ดาวน์บ้านได้เลย อย่างไรก็ดีออกตัวก่อนครับว่า ตัวเองไม่ได้เก่งกาจขนาดจะไปแข่งเกมระดับนี้ แต่ผมไปในฐานะผู้ปกครอง ชั่วคราวของเด็กลูกครึ่งไทย-ฮ่องกงวัย 15 ที่แม่เค้าฝากเอาไว้ให้พาลูกชายเค้าไปหน่อย เพราะพี่เค้าต้องไปฮอลิเดย์ที่ฮ่องกงหนึ่งเดือน
หลังจากน้อง "แมทธิว" หรือ "ผีวินนิ่ง" ที่ผมมักใช้เรียกแทนชื่อเจ้าตัว (เนื่องจากแกนั่งเล่นได้เป็นวันๆ ไม่มีเบื่อ) ผ่านรอบคัดเลือกจากการแข่งออนไลน์ และเข้ารอบ 32 คนสุดท้ายมาเล่นที่เวมบลีย์

โดยจากประสบการณ์คนเคยติดวินนิ่ง และจัดว่าตัวเองเล่นพอใช้ได้ พอมาเจอน้องแมทธิว ผมนั้น "หมู"ไปเลย เพราะโดนน้องแกยำซะเสียผู้ใหญ่ หลายครั้งหลายหน แต่เชื่อมั้ยครับว่าเสาร์ที่ผ่านมาน้อง "ผีวินนิ่ง"ของผมที่จัดว่า "เซียน"แล้ว เจอพวกเด็กอังกฤษที่นี่ที่หน้าตาแต่ละคนดูก็รู้ว่า เลยครับว่า "บ้าเกมส์" มากยำไป 8-0 ตกรอบแรกแบบผม นั่งรอยังไม่ทันเมื่อยก้น ^^ เพราะแต่ละคน ที่เข้ามาเล่นถึงรอบนี้ ยอมรับจริง ๆ ว่าปีศาจวินนิ่งตัว จริงทั้งนั้น และน้องแมทธิวที่ว่าเก่งมากๆ แล้วก็ยังสู้เค้าไม่ได้อยู่ดี

เรื่องไม่เป็นเรื่องนี้จึงสะท้อนให้เห็น ถึงความจริงอีกประการครับว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า และไม่ควรประมาทกับทุกเรื่องที่เรากำลังทำอยู่ซึ่งตรงนี้มันทำให้ผมหวนนึกถึงสิ่ง ที่กำลังเกิดขึ้นกับอาร์เซนอลในเวลานี้หลัง เริ่มออกอาการแผ่ว + แรงจูงใจ ยามเล่นในบ้านหลังจากเกมกับเอซี มิลาน หดหายไปอย่างเห็นได้ชัด และสไตล์ Free-flowing ฟุตบอลของพวกเค้าที่เล่นกันได้ไหลลื่นเริ่มโดน ดักทางได้บ้างแล้วในพรีเมียร์ชิพ

ในหนังสือโปรแกรมของเกมนี้ บทสัมภาษณ์ของวิลเลี่ยม กัลลาส เจ้าตัวก็ยอมรับตรงๆ แบบลูกชายว่าแรงจูงใจ ในเกมเสมอวีแกน 0-0 ไม่สูงเท่ากับเกมกับเอซี มิลาน ที่ใหญ่ และมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า อ่านถึงตรงนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ พิกล และไม่เข้าใจอารมณ์ติสต์แตก ของกัปตันทีมอาร์เซนอลรายนี้เท่าไหร่ เพราะหลายครั้งหลายหน อย่างที่ท่านผู้อ่านคงจะคิดเหมือน กับผมน่ะครับว่า หมอนี่นั้นเลือดศิลปินแกแรงจริงๆ ไหนจะออกมาว้ากเพื่อนร่วมทีม พูดเรื่องที่ไม่ควรจะพูดกับสื่อ หรือนั่งงอนตุ๊บป่องไม่ยอมออกจาก สนามในเกมเสมอกับเบอร์มิงแฮม 2-2 ฯลฯ

โดยรวมแม้เจ้าตัวจะไม่ได้ทำอะไร ผิดพลาด แต่ผมกลับมอง ว่าเจ้าตัวไม่ค่อยมีอิทธิพล ระหว่างเกมต่อเพื่อนร่วม ทีมสักเท่าไร ไม่เหมือนเชลซีที่มี จอห์น เทอร์รี่ และลิเวอร์พูลมีสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ที่ดูมี Impact ต่อทีมเยอะมากยามที่มีสองคนนี้อยู่ในสนามด้วย
เกมนี้ จริงอยู่ครับที่อาร์เซนอลนั้นเล่น Free flowing ฟุตบอลที่ไหลลื่นได้เหมือนเคย แต่ประสิทธิภาพในการ ทำประตูในช่วงหลังๆ ดูจะฝากความหวังไว้ที่ "มือปืนจากโตโก" เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ มากไปหน่อย และเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างที่ แกเรธ เซาธ์เกต ออกมาเปิดเผยหลังเกมว่า เค้า และลูกทีมได้ศึกษาเทปการแข่งขัน อาร์เซนอล-แอสตัน วิลล่า ก่อนลงสนาม และเห็น "จุดอ่อน" ในทีมชุดนี้ของอาร์เซนอลบ้างเหมือนกัน

เซาธ์เกตเผยว่า หากอาร์เซนอล ต้องเจอ ทีมที่มีกองหลังเขี้ยวๆ เล่นหนักๆ ไม่เปิดที่ว่างให้อเดบายอร์ได้บอลมาก นักแล้วละก็ อาร์เซนอลชุดนี้เจอปัญหาทันที เพราะ ตัวเลือก ในแนวรุกนั้นดูจะมีแกคนเดียวจริงๆ ที่พอตั้งเกม และเป็นตัวตัดสินชะตาให้ทีมได้มากที่สุด ในตำแหน่งกองหน้า

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็เพิ่งหายจาก อาการบาดเจ็บ และยังต้องใช้เวลาเคาะสนิมอีกสักพักกว่าจะกลับ มาท็อปฟอร์มได้อย่างเดิม ธีโอ วัลคอตต์ ก็ยังต้องพัฒนา และหาตำแหน่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองไม่ได้ เพราะเล่นปีกก็โยนไม่ ดี เล่นหน้าก็ต้องมีวิญญาณเพชฌฆาตมากกว่านี้ อีกทั้ง นิคลาส เบนท์เนอร์ ก็ดันเกลียดขี้หน้ากันกับหัวหอกโตโก และคงไม่ได้เล่นกันเข้าขาแบบมองตาก็รู้ใจ อย่างคู่กองหน้าอื่นๆ ในลีก
นอกจากเรื่องสไตล์การเล่นที่เริ่ม โดนดักทางได้ในลีกแล้ว ยังกันส์ของอาร์เซนอลต้องไม่เสียความเชื่อมั่น และอย่าให้ สถานการณ์ตอนนี้ที่โดน ผีแดง แมนฯยูฯ แซงหน้าไปแล้ว (มี 67แต้มเท่ากัน แต่ประตูได้เสียดีกว่า+และแข่งน้อยกว่า 1 นัด) มากดดันตัวเองใน 8 นัดที่เหลืออยู่ในฤดูกาลนี้

อย่างไรก็ดีครับ สัญญาณดีๆ ในเกมนี้ของอาร์เซ นอลยังมีให้เห็น แม้โดยรวมจะถือว่าน่าผิดหวังก็ตาม เนื่อง จากว่า "สปิริตนักสู้" ของทีมชุดนี้ที่แม้จะบุก One-way อยู่ข้างเดียวตลอดทั้งเกม แต่ยังไม่ได้ พวกเค้าก็ดูจะไม่ยอมถอดใจ และ "คัมแบ็ก" กลับมาอย่างน้อยๆ ก็ไม่แพ้คาบ้านตัวเอง

สถานการณ์ในตอนนี้ ค่อนข้างแน่ว่า แมนฯยูฯน่าจะหนีอาร์เซนอลเป็น 3 คะแนนได้ในค่ำคืนวันพุธนี้เพราะเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดรับการมาเยือนของโบลตัน ซึ่งไม่น่าจะมีดีพอบุกมาขโมยแต้มพวกเค้าได้ ขณะที่เชลซี ผู้ท้าชิงสำคัญอีกทีม ก็มีโอกาสไม่น้อยเช่นกันที่จะทำคะแนนมามาเทียบเท่าทีมปืนโตที่ 67 คะแนน แม้จะต้องออกไปเยือนสเปอร์สก็ตาม แต่ดูทีมตราไก่ในชั่วโมงนี้นั้นผมมองว่าพวกเค้าผ่านจุด "ไคลแมกซ์"ของตัวเองไปแล้ว ในซีซั่นนี้ด้วยการเป็นแชมป์คาร์ลิ่งคัพ + ตกรอบยูฟ่าคัพไป ความมุ่งมั่นตั้งใจ จึงน่าจะลดลงไปเยอะ เชลซีจึงน่าจะเก็บได้อย่างน้อย ๆ ก็ 1แต้ม เพราะสถานการณ์ อัฟรัม แกรนต์นั้นก็ไม่ค่อยจะมั่นคงซะด้วยในช่วงนี้

สรุปแล้ว ไม่ใช่ว่าโอกาสเป็นแชมป์พรีเมียร์ชิพ ของอาร์เซนอลจะหลุดลอย หมดหวังทวงบัลลังก์คืน เพราะหากในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้พวกเค้าบุกไปสอยเชลซีได้ และแมนฯยูฯ เกิดไม่ชนะลิเวอร์พูลขึ้นมา "โมเมน ตัม" ก็จะพลิกมาเข้าทางทีมปืนโตอีกครั้งแน่นอน เพียงแต่ว่า อาร์แซน เวนเกอร์ แอนด์ โค ต้องหา "ไม้เด็ด" มาแก้ลำทีมที่จ้องจะหยุดแนวรุกมหาประลัย ด้วยการใช้ "คาถามหาอุต" อย่างที่มิดเดิลสโบรห์ ใช้ได้ผลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาให้ได้เสียก่อน หากยังหวังที่จะเป็นแชมป์ในปีนี้

1 comment:

ธานคับ said...

หวัดดีครับคุณเอก นีถ้าผมไปเล่นคงโดนถล่มสัก 120-0 กลับบ้านแน่ๆ ส่วนเรื่องไอ้เน่าผมแช่งมันอย่างเดียวเมื่อคืนโดนเชลซีสอยไปอีก สะใจมากๆครับ ผมว่าปัญหาของไอ้เน่าคือมันท๊อปฟอร์มผิดเวลา แล้วมาฟอร์มตกในช่วงสำคัญเลยซวยไป ปกติไอ้เน่าไม่มีทางพลาดกับทีมเล้กๆแบบนี้หรอก แต่ก็สะใจทุกครั้งที่ไอ้เน่าวืด 5555