Wednesday 5 September 2007

ชำแหละสิงโตคำราม ก่อนเกม "ชี้ชะตา"

หลังจากห่างหายไปจากทีมชาติอังกฤษกว่า 39 เดือน (3 ปี กว่า ๆ) เอมิล เฮสกีย์ หัวหอกร่างถึกที่ปัจจุบันเล่น ให้กับวีแกนก็ถูกเรียกตัวคืนสู่ทัพ "สิงโตคำราม" อีกคำ รบ ท่ามกลางความแปลกใจของสื่อเมืองผู้ดีรวม ทั้งตัวกระ ผมเอง

ครับ ใครจะคิดว่า สตีฟ แม็คคลาเรน จะสิ้นไร้ไม้ตอกถึงขั้นคิดสั้นเรียก "น้ำพริกถ้วยเก่า" อย่างอดีตหัวหอก ลิเวอร์พูลกลับมาในแมตช์ "ชี้เป็น ชี้ตาย" ที่คนอังกฤษทั้งประเทศหวังจะเห็นชาติของ พวกเค้าได้ไปเตะฟุตบอล ยูโร 2008 ที่ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์จะเป็นเจ้าภาพร่วมกันในปีหน้า

...เท้าความกันสักเล็กน้อยสำหรับสถานการณ์ของทีม "ทรีไลออนส์" ปัจจุบันนี้ พวกเค้ากำลังรั้งอันดับ 4 ของตารางโดยตามหลังโครเอเชีย และอิสราเอล 2 ผู้นำร่วมในกลุ่มอยู่ 3 แต้ม โดยที่อิสราเอลลงเตะมากกว่าหนึ่งนัด

26 ผู้เล่นได้ถูกคลอดโผออกมา ท่ามกลางผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง เดวิด เบนท์ลี่ย์ , แอชลี่ย์ ยัง หรือสิงโตตัวใหม่อย่าง โจเลียน เลสคอตต์ ที่ประสบการณ์ยังไม่น่าจะ พร้อมสำหรับเกมที่เต็มไปด้วยความ "ตึงเครียด + คาดหวังสูง" แบบนี้

แต่อย่างว่าครับ "บิ๊กแม็ค" ไม่มีทางเลือกมากนักในเพลา นี้เพราะ เวนย์ รูนี่ย์, เดวิด เบ็คแฮม และ คีรอน ดายเออร์ เจ็บยาว ขณะที่ปีเตอร์ เคราช์ ก็โดนแบนในเกมวันเสาร์ที่จะถึงนี้กับอิสราเอล
"อริสมัน" อลัน สมิธ ขวัญใจผมก็ทำผลงานได้ไม่ดีในการอุ่นเครื่องนัดก่อนกับเยอรมัน, เจอร์เมน เดอโฟ ก็ยังไม่สามารถยึดตัวจริงที่สเปอร์สได้ และถูกมองว่าการเล่นคล้ายกับ ไมเคิล โอเว่น มากจนเกินไป

ครั้นจะไปเรียกกองหน้าอย่าง ดีน แอชตัน ที่แฟนขุนค้อนบางรายแอบเชียร์ให้ติดธงก็ใช่ที่ เพราะความเป็นจริงแล้วหัวหอกร่างอวบจากเวสต์แฮมก็ยัง Lack of experience หรือไร้ประสบการณ์อยู่ดี

มันเลยเป็นที่มาของการเรียก เฮสกีย์ หัวหอกที่มีสถิติในการยืนคู่กับ "เซนต์ไมเคิล" ในยามที่เล่นด้วยกันในทีมชาติค่อนข้างดี โดยสถิติในการยืนคู่กันนั้น ทั้งคู่ทำได้ถึง 11 ประตูจาก 12 นัดในนามทีมชาติอันถือเป็นสถิติที่ไม่เลวเลย
แม้หลายคนอาจจะยก สถิติ "สุดฝืด" ของเฮสกีย์ มาแย้ง เพราะว่าทำได้เพียง 5 ประตูจาก 43 นัดให้อังกฤษ แต่ก็ต้องไม่ลืมนะครับว่า แนวการเล่นของหมอนี่ออกจะเป็นตัว "ชง" ให้เพื่อนซะมากกว่า

การมีส่วนร่วมกับเกมของแก รวมถึงความได้เปรียบในเรื่องความใหญ่ น่าจะเป็น "ข้อชดเชย" ได้บ้างนะครับ...

ระบบการเล่น ผมคาดว่า แม็คคลาเรนจะใช้ 4-4-2 อันเป็นระบบ ที่นักเตะในทีมส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี
ขณะที่ไล่ดูในแต่ละตำแหน่ง เห็นจะมีตำแหน่ง "นายด่าน" นี่แหละครับที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เกือบๆ จะแน่นอนแล้ว เพราะ Confidence หรือความมั่นใจของ "นายห้าง" โรบินสันดูไม่เหลือเลยหลังจากเสียไปถึงสามเม็ดในเกมกับฟูแล่มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ฉะนั้น สมควรให้โอกาส เดวิด เจมส์ แล้วครับ!!

แบ็กซ้ายน่าจะเป็น แอชลี่ย์ โคลที่จะกลับมาทวงตำแหน่งคืนได้จาก นิคกี้ ชอว์รีย์ ขณะที่แบ็กขวา ไมคาห์ ริชาร์ดส น่าจะได้ลงต่อหลังจากทำผลงานได้เยี่ยมในนัดก่อน โดยคู่เซ็นเตอร์ฯ จะเป็นกัปตันทีมจอห์น เทอร์รี่ และริโอ เฟอร์ดินานด์ ลงจับคู่กันเช่นเคย

ขณะที่แผงหลังดูจะไม่เป็นปัญหามากนักแต่กองกลางคือ "โจทย์" ที่แม็คคลาเรนต้องนั่งคิดนอนคิด นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะการขาดหายไปของตัวหลัก ๆ อย่าง เบ็คแฮม ที่เจ็บไปก่อนเพื่อน
เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด ยังมาต่อด้วย "หัวใจ" ในแผงกองกลางอย่าง เจอร์ราร์ด และแลมพาร์ด ที่ยัง 50-50 โดยคงต้องดูอาการกันจนถึงวินาทีสุดท้าย

แต่ก็ใช่ว่า ทางออกของ "บิ๊กแม็ค" จะตีบตัน มืดมนไปหมดซะทีเดียวนะครับ เพราะลึกๆ แล้วผมเชื่อว่า โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ คือ "คีย์แมน" คนสำคัญที่น่าจะช่วยทีมได้เยอะ ในช่วงเวลาคับขันของทีมด้วยความขยัน และลูกบู๊ + บุ๋น ที่เจ้าตัวมี

ขาดก็แต่คู่ขาในแดนกลางนี้แหละครับที่ไม่ทราบว่า "บิ๊กแม็ค" จะเลือกใครลงในกรณีที่ เจอร์ราร์ด หรือ
แลมพาร์ด ลงไม่ได้จริงๆ

ปีกซ้าย ไม่เป็นปัญหาเพราะ โจ โคล พร้อมประจำการ ขณะที่การขาดเบ็คแฮม และดายเออร์ จะทำให้ "ไอ้สั้น" ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ได้รับโอกาสไป

คู่หน้าอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น คู่หู โอเว่น-เฮสกีย์ น่าจะจับคู่กันตามที่ "บิ๊กแม็ค" ได้เปรย ๆ กับทาง
สื่อมวลชนไว้

ที่นี้ก็เหลือแต่ "การปลุกเร้า" นักเตะของแม็คคลาเรนแล้ว ละครับว่าจะทำให้เหล่านักเตะสิงโตคำราม ที่ยามนี้เหมือน "สุนัขจนตรอก" ไม่มีทางเลือกมากหนัก ฮึดสู้ เพื่อคว้า 6 คะแนน ในเกมกับอิสราเอล และรัสเซียในวันที่ 8 และ 12 กันยายน นี้ได้หรือเปล่า

โดยสองเกมที่ว่านี้ หากอังกฤษไม่ลนลาน หรือ กดดันตัวเองที่เกิดจากความตึงเครียดมากเกินไป พวกเค้าน่าจะทำได้ "ตามเป้า" ที่วางเอาไว้ แม้ว่ารูปเกมอาจจะไม่สวย ไม่เอนเตอร์เทนแฟนบอลก็ตามที


เพราะหากอะไรๆ ไม่เป็นอย่างที่คิดแล้วนั้น โอกาสที่พวกเค้าจะ "หลุดโผ" ตกม้าตายในรอบคัดเลือก ก็จะเป็นไปได้สูง และตำแหน่ง นายใหญ่สิงโตคำรามก็คงได้เปลี่ยนกันอีกรอบ แบบไม่ต้องสืบเลยล่ะครับ !!

ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 2967

3 comments:

Anonymous said...

ชนะอิสราเอลไปแล้ว ...

หวังว่าจะชนะรัสเซียในแมทต่อไปด้วย

อังกฤษสู้ สู้ สู้ตาย

ธานคับ said...

คือถ้าอังกฤาตกรอบไปงานกร่อยแน่ๆ ก็เอาใจช่วยอังกฤษด้วยคนล่ะกันครับ

เอก อุดมสุข said...

ตอนนี้กำลังจะไปดูบอลที่ผับครับ แวะเข้ามาดูบอร์ด

บอกตามตรงว่ากลัวอังกฤษเสมอมากเลย
เพราะรัสเซียชุดนี้ แนวรับเหนียวมาก -.-