Wednesday 12 September 2007

สิงโตจะตะปบหมีขาว!!!


ไม่มีใครเถียงครับว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในแมตช์กับอิสราเอล สตีฟ แม็คคลาเรน ตัดสินใจเลือกตัวผู้เล่นได้ "ถูกที่ ถูกเวลา" เป็นที่สุดไม่ว่าจะเป็นการส่ง เอมิล เฮสกีย์ รวมถึง แกเร็ธ แบร์รี่ ลงสนาม ในช่วงเวลาที่ถือว่าอังกฤษตกอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานอยู่พอดี

มากไปกว่านี้ ทั้งคู่ยังสามารถทำผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจครับ โดยเฮสกีย์ได้ใช้ความใหญ่ ความขยันที่มีช่วยเหลือ ทีมรวมไปถึงสนับสนุนเกมของ ไมเคิล โอเว่น ได้สมกับคำว่า "คนรู้ใจ"

ขณะที่แบร์รี่ ในการจับคู่กับ สตี่วี จี ก็ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดูเหมือนจะเล่นได้อย่าง"รู้ใจ" กว่าคู่ โอเว่น-เฮสกีย์ เสียอีก แม้ว่าจะไม่เคยถูกจับให้เล่นด้วยกันมาก่อนก็ตาม

การจับคู่ของสองกองกลางที่ค่าย หงส์แดง และสิงห์ผงาดส่ง เข้าประกวดนั้นดู "ลงตัว" เพราะเราจะเห็นได้ว่าเจอร์ราร์ดจะมีอิสระ การเติมเกมรุกได้อย่างเต็มที่ผิดกับยามที่ต้องเล่นกับแฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ต้องคอยเตือนตัวเองให้ระวังหลังบ้าน เพราะสไตล์หนุ่ม "แลมพ์" ก็ถนัดในการ "เดินหน้า หาประตู" เช่นเดียวกัน

ดังนั้น การจับคู่ของ เจอร์ราร์ด-แลมพาร์ด ที่ดูๆ แล้วไม่ค่อย "เวิร์ก" น่าจะเป็น "แนวทาง" ในการจัดทีมนัดต่อๆ ไปของ สตีฟ แม็คคลาเรน ได้บ้างไม่มากก็น้อยล่ะครับ (อันนี้คงต้องภาวนา ให้ "บิ๊กแม็ค" เลิก "ยึดติด" และ "เกรงใจ" สตาร์ดังๆ ด้วยนะครับ)

แบร์รี่เองแม้ว่าจะไม่มีความเร็วมาก แต่การยืนตำแหน่ง รวมถึงการกล้าเล่น กล้าลุย มากกว่าไมเคิล คาร์ริค ที่สไตล์การเล่นดูเนือยๆ ไร้ซึ่งความ "ดุดัน" ทำให้ "บิ๊กแม็ค" ลองเสี่ยงใช้บริการในนัดที่ผ่านมาและดู "เข้าท่า" ทีเดียวในความเห็นผม

อีกจุดหนึ่งที่อย่างพูดถึงก็คือ "สัญญาณ" ที่ดีทางฝั่งขวาของ ทีมชาติอังกฤษที่ตอนนี้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และไมคาห์ ริชาร์ดส กำลัง "ดีวัน ดีคืน" โดยเฉพาะในรายหลังที่ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ และน่าจะกลายเป็นแบ็กขวาตัวหลักให้ทีมชุดนี้ไปอีกหลาย ปีถ้าหากว่าไม่เสเพล หรือบาดเจ็บจนฟอร์มหลุดไปเสียก่อน

การทะลุขึ้นเป็นตัวจริงทีมชาติของทั้งคู่ และทำผลงานได้ "แจ่ม" นั้นหมายถึงวันเวลาของ แกรี่ เนวิลล์ และเดวิด เบ็คแฮม ในนามทีมชาติน่าจะ "จบ" ลงในไม่ช้าแล้วเช่นกัน

ประเด็นสุดท้ายที่อย่างพูดถึงก็คือ ตำแหน่งคู่กองหน้าครับ เพราะ ปีเตอร์ เคราช์ พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือกพร้อมให้ "บิ๊กแม็ค" เลือกใช้บริการอีกครั้ง

ขณะที่ผมนั่งพิมพ์งานชิ้นนี้อยู่ (เช้าวันอังคาร) ยังไม่มีข่าวเพิ่มเติมใดๆ ครับว่า "บิ๊กแม็ค" ได้ตัดสินใจเลือกคู่หัวหอกว่าจะเป็นคู่ โอเว่น-เฮสกีย์ หรือโอเว่น-เคราช์

แต่เท่าที่ "จับกระแส" สื่อที่นี้รวมถึงผลโหวตของ The Sun ที่ไปสัมภาษณ์ อดีตสตาร์ทีม ชาติอังกฤษอย่าง อลัน เชีย เรอร์, เกล็น ฮอดเดิ้ล และคริส วอลเดิ้ล ทั้งหมดต่างยกมือ สนับสนุน เฮสกีย์ และอยากเห็นการจับคู่ของ โอเว่น-เฮสกีย์ มากกว่า โอเว่น-เคราช์ อย่างเป็นเอกฉันท์

ส่วนตัวแล้ว แม้จะมองว่า เฮสกีย์ ไม่ได้เก่งกว่าเคราช์เลยสักนิดเดียว แต่ผมก็อยากจะเห็นหัวหอกวีแกน ได้ลงเป็นตัวจริงในเกมคืนนี้กับรัสเซียต่อไปอีกหนึ่งนัดครับ

สาเหตุหลักๆ ที่ผมเลือกเฮสกีย์ก็คือ :

1. ปีเตอร์ เคราช์ ขาด Match practice หรือไม่ได้ลงเล่นให้ลิเวอร์พูลมากนักในซีซั่นนี้ รวมไปถึงการติดโทษแบนในเกมวันเสาร์ซึ่งน่าจะทำให้ "ความพร้อม" ของเฮสกีย์มีมากกว่า
2. แม้ทั้งคู่จะสูงพอกัน แต่ "ความใหญ่" ของเฮสกีย์ น่าจะเป็น "ผลดี" กับอังกฤษมากกว่า เพราะเกมนี้อังกฤษต้องการ "ตัวชน" กับแผงหลังรัสเซีย และหอกวีแกนน่าจะเป็น "คำตอบสุดท้าย" ได้

รัสเซียภายใต้การควบคุมของ กุส ฮิดดิ้งค์ มีผลงานเสียประตู "น้อยที่สุด" ในรอบคัดเลือก โดยเสียไปแค่ 1 ประตูเท่านั้นจากการเล่น 8 นัด ดังนั้นเกมนี้ อังกฤษจึงต้องจัดกลยุทธ์ให้ยิงประตูได้ และชนะเท่านั้น

ไม่เช่นนั้นแล้ว หากเกมคืนนี้กับรัสเซียออกมา "ผิดคาด" ชัยชนะที่เพิ่งได้มาเมื่อวันเสาร์ก็จะถูกลืมไปทันที พร้อมทั้งคำถามมากมายจาก "สื่อ" รวมไปถึง "ความไว้วางใจ" จากเอฟเอที่ จะกลับเข้ามา "หลอกหลอน" โสตประสาทของ "บิ๊กแม็ค" อีกครั้ง
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับที่ 2974

No comments: