Thursday 19 March 2009

Onside With...Ledley King

หลายเรื่องราวที่เราไม่เคยได้ยินจากปาก ‘อดีต’ กัปตันทีมคนนี้...
Life
Q: เมื่อไรก็ตามที่มีเวลาให้ตัวเอง
LK: ผมมักหาเวลาไปพบเพื่อนๆและครอบครัว เพราะว่านอกเหนือจากฟุตบอลแล้วผมก็ไม่ได้มีกิจกรรมยามว่างที่โปรดปรานเป็นพิเศษเหมือนคนอื่นเค้า
Q: เมื่อคุณรู้สึกแย่มากๆ
LK: ไม่ค่อยมีนะ ผมเป็นคนสบายๆไม่ค่อยคิดอะไรมาก อย่างไรก็ดีบางครั้งอาจจะมีคิดเรื่องฟุตบอลบ้างแต่พอผมกลับบ้านไปพบหน้าลูกชาย (โคบี้) ผมก็รู้ได้เลยว่าอย่างน้อยก็มีเจ้าตัวเล็กนี้แหละทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้
Q: อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมั้ย?
LK: Nobody Perfect นะ และผมก็ไม่กลับไปแก้ไขอะไรหรอก ผมพอใจกับสิ่งที่ผมเป็น
Q: สิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุดที่พ่อแม่สอนมา
LK: การวางตัวและมารยาทในการออกสังคม ท่านมักจะสอนผมเสมอว่าให้เคารพผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นอุปนิสัยของผมไปแล้ว
Q: บทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิต
LK: ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมสูญเสียเพื่อนและญาติบางคนไปจึงได้ตระหนักว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ทุกวันนี้ผมตื่นเช้ามาและบอกตัวเองเสมอว่าจะใช้ชีวิตให้มีคุณค่าและสนุกกับมันให้มากที่สุด
Q: ข้อเสียของคุณ
LK: ผมชอบกินของหวานๆนะซิ! แต่ชีวิตนักฟุตบอลทำให้ผมต้องควบคุมตัวเองไม่ให้ตามใจปาก น่าเศร้าเนอะว่ามั้ย?
Q: วันสำคัญที่สุดในชีวิต
LK: ปี2004 วันที่ลูกชายผมลืมตาขึ้นมาดูโลก อาจจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้การคลอดของภรรยาผมดูติดขัดบ้างจนผมต้องรีบบินกลับบ้านจากทัวร์นาเมนต์ยูโร2004ที่โปรตุเกส แต่สุดท้ายก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี...เป็นวันนึงที่ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตกับการได้เป็นพ่อคน
Q: เพลงติดปากช่วงนี้
LK: Use somebody และ Sex on Fire ของ Kings of Leon และ Mad ของ Ne-Yo
Q: คนที่ทำให้คุณมีเสียงหัวเราะเสมอ
LK: เพื่อนสนิทในวัยเด็กของผม เรารู้จักกันมานานมากและมีช่วงเวลาสนุกร่วมกันมาเยอะสมัยเรียน เมื่อไรก็ตามที่เราได้เจอกัน เมาธ์แตก ฮากระจายขอบอก
Taste- รสนิยม
Q: ตึกที่ชอบ
LK: จริงแล้วผมไม่ใช่ประเภทชอบเดินดูตึกและยืนชื่นชมเหมือนศิลปินบางคนหรอก แต่ก็มีที่คิดว่าดูดี อย่างเช่นตึกเอมไพร์ สเตจ ที่นิวยอร์คและโบสถ์ที่บาร์เซโลน่า
Q: ภาพวาด
LK: รูปผมกำลังเตะฟุตบอลที่ลูกชายวาดที่โรงเรียน
Q: การเดินทาง
LK: ผมรู้สึกดีทุกครั้งเวลาที่ได้จับเครื่องบินไปไหนไกลๆกับครอบครัวช่วงปิดซีซั่น
Q: สถานที่สุดโปรดในอังกฤษ
LK: ผมเกิดและโตในลอนดอน จึงรู้สึกว่าตัวเองชอบเมืองนี้เพราะเป็นแหล่งรวมอารยธรรมและผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าคุณอยากทำอะไร คุณสามารถทำได้หมดที่นี้ ร้านอาหารก็มีครบเกือบทุกชาติไม่ว่าคุณจะมาจากส่วนไหนของโลก
Q: ของติดตัวที่ขาดไม่ได้
LK: โทรสับมือถือและไอพอต
As a boy
Q: หนังสือที่ชอบ
LK: สมัยเด็กผมชอบอ่าน ‘Napper Goes for Goal’ พอโตขึ้นมาอีกหน่อยก็เป็นเรื่อง ‘ The Twits’
Q: ตัวการ์ตูนที่ชอบ
LK: ขอโทษนะแต่ผมไม่อ่านการ์ตูน
Q: รายการทีวีสุดโปรด
LK: พอกลับจากโรงเรียนมาที่บ้านผมมักจะเปิดช่อง ITV ไว้ให้ดูเสมอ
On Spurs
Q: วันแรกที่สเปอร์สเป็นอย่างไรบ้าง
LK: ตอนนั้นผมยังเป็นนักเรียนไปด้วย มาซ้อมบอลอินดอร์กับสเปอร์สทุกคืนวันอังคารและพฤหัสบดี จำได้ว่ามากับเพื่อนอีกสองคนทำให้พวกเราไม่รู้สึกประหม่าจะเกินไป ความรู้สึกในตอนนั้นนะเหรอ? สุดยอดดดมาก (ลากเสียงยาว) ผมตื่นเต้นสุดๆกับสิ่งอำนวยความสะดวกของสโมสร เพราะก่อนหน้านั้นผมเคยไปซ้อมกับสโมสรเลย์ตัน มาซึ่งต่างกันราวฟ้ากับเหว!
Q: บุคคนแรกที่คุณเจอที่สโมสร
LK: ตอนนั้นน่าจะเป็นโค้ชพาร์ทไทม์ของสโมสรนะ แต่พวกเค้าก็ดีกับเด็กๆอย่างพวกผมมากเลยละ
Q: เพื่อนที่ดีที่สุดที่สเปอร์ส
LK: ผมไม่อยากเจาะจงใครเป็นพิเศษเพราะว่าผมเข้ากันได้ดีกับทุกคน แต่ร็อบบี้ คีนซึ่งอยู่กับทีมมานานย้ายกลับมาอีกครั้งทำให้ผมรู้สึกดีนะ
Q: ความผิดหวังครั้งร้ายแรง
LK: ผมได้เล่นนัดชิงชนะเลิศสามครั้งในชีวิต (แพ้แบล็คเบิร์น, แมนฯยูไนเต็ดแต่ชนะเชลซี) มันคงจะดีหากผมสามารถเป็นผู้ชนะได้ทั้งหมด
Q: คู่ต่อสู้ที่คุณให้ความยอมรับมากที่สุด
LK: ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยพบมาคือเธียรี่ อองรีช่วงพีคๆสมัยที่เล่นให้อาร์เซนอล อีกคนนึงคือซีเนอดีน ซีดานตอนที่ผมเล่นให้ทีมชาติอังกฤษพบฝรั่งเศษซึ่งเค้าโดดเด่นมากๆในเกมนั้น นอกจากนี้ผมยังจำไม่ลืมตอนที่ต้องเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับให้อังกฤษแล้วต้องตามประกบฮวน โรมัน ริเกลเม่ซึ่งวันนั้นแทบเข้าไม่ถึงตัวเค้าเลยมันทำให้เรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองในการประกบตัวให้มากขึ้น
Q: ประตูที่อยู่ในความทรงจำ
LK: เป็นประตูที่พบอาร์เซนอลซึ่งเราแพ้ไป5-4ปี2005 หลังจากนั้นอีกปีนึงผมโหม่งให้ทีมขึ้นนำก่อนที่เราจะถูกตีเสมอตอนหลัง อย่างไรก็ดีมันจะเป็นประตูที่อยู่ในความทรงจำผมเสมอเพราะบรรยากาศในสนามมันสุดยอดจริงๆ
ส่วนประตูที่ผมชื่นชอบส่วนตัวเป็นลูกวอลเล่ย์ของมาร์โก แวนบาสเท่นในศึกฟุตบอลโลกปี1986
Q: กิจวัตรก่อนลงแข่ง
LK: ตื่นแต่เช้าหาอะไรกินเบาๆ อาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางไปสนาม พอไปถึงก็กินเพิ่มอีกหน่อยและเพ่งสมาธิให้พร้อมสำหรับเกมที่จะเตะ
Q: สนามในพรีเมียร์ชิพที่ทำให้คุณประทับใจ
LK: น่าตะเป็นแอนฟิลด์เพราะว่าเป็นสนามที่ผมได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เมื่อไรก็ตามที่ได้กลับไปที่นั้นผมรู้สึกดีเสมอ
Q: สิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุดที่สเปอร์สละ
LK: ความจงรักภักดีของแฟนบอลที่ไม่เคยเสื่อมคลายและประวัติศาสตร์อันยาวนานของสโมสร

Ledley King Career timeline
1980- เลดลีย์ เบรน์ตัน คิง ถือกำเนิดในปี1980 วันที่12ตุลาคมในย่านโบว์ (Bow), ลอนดอน
1997- ร่วมทีมสเปอร์สในฐานะเด็กฝึกหัดของสโมสร
1998- เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับสเปอร์ส
1999- ประเดิมสนามให้ตัวเองนัดแรกในเกมที่พ่ายลิเวอร์พูลไป3-2ที่แอนฟิลด์
2000- ได้ลงเล่นสองเกมสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาล1999-2000 ขณะที่อีกหนึ่งปีให้หลังได้ลงเล่นบ่อยขึ้นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ก่อนที่จะทำสถิติยิงประตูเร็วที่สุดในลีกด้วยการใช้เวลาเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้นในเกมที่เสมอกับแบลดฟอร์ตไป3-3 (ปี1999)
2001- เปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาฟและทำให้แนวรับของทีมดูดีขึ้นทันตา
2002- ติดทีมชาติอังกฤษนัดแรกในเกมที่พ่ายอิตาลีไป2-1คาบ้านตัวเอง, พาทีมเข้าชิงชนะเลิศลีกคัพ
2004- ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้อังกฤษและยิงประตูในนามทีมชาติได้ในเกมที่พบออสเตเรีย ก่อนที่จะติดทีมไปเล่นยูโร2004และมีส่วนร่วมในเกมกับฝรั่งเศษและโครเอเชีย
2006- เป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของคิงเมื่อสามารถพาสเปอร์สจบฤดูกาลด้วยอันดับที่5
2007- แทบไม่ได้ลงช่วยทีมเลยเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บอย่างร้ายแรงที่หัวเข่า
2008- พาสเปอร์สเป็นแชมป์ลีกคัพด้วยการเอาชนะเชลซีในนัดชิงชนะเลิศได้แบบเซอร์ไพรส์แฟนบอลสุดๆ
2009- ลงเล่นให้ทีมครบ200นัดในวันที่26ตุลาคม, พาทีมเข้าชิงลีกคัพอีกครั้งแต่โชคร้ายพ่ายจุดโทษต่อแมนฯยูไนเต็ดไปอย่างน่าเจ็บใจ

Credit : สเปอร์สแม็กกาซีนฉบับเดือนมีนาคม2009

Tuesday 3 March 2009

ปีหน้าค่อยว่ากัน

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยครับสำหรับศึกฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพนัดชิงชนะเลิศครั้งที่49ที่สนามเวมบลีย์ โดยครั้งนี้ไม่มีพลิกโผแต่อย่างใดเมื่อ 'ปีศาจแดง' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้เบน ฟอสเตอร์มือกาววัย25ปี เซฟกระจายทั้งในเกมและช่วงจุดโทษพาทีมเป็นแชมป์อย่างยิ่งใหญ่...
ส่วนแฟนสเปอร์ส(อย่างเราๆท่านๆ)ก็ต้องทำใจและยอมรับผลการแข่งขันแต่โดยดีว่าปีนี้ไม่ใช่ปีทองของเราจริงๆ เพราะนอกจากผลงานในลีกจะออกสตาร์ตได้ย่ำแย่ถึงขั้น 'ห่วยเป็นประวัติศาสตร์' ของสโมสร นัดชิงที่หวังเอาไว้ว่าจะพาทีมไปเล่นบอลยุโรปในฤดูกาลหน้าก็มีอันต้องพังทลายไปต่อหน้าต่อตาอีก T.T
ก็ถือว่าน่าเสียดายอย่างแรงครับเพราะพวกที่เซ็นเข้ามาใหม่ในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมาอย่างพาลาซิออส,ชิมบงด้า,คีนและคูดิชินี่ติดคัพไทร์หมดสิทธิ์ลงสนามช่วยทีม แถมฮีโร่ในปีที่แล้วอย่างโจนาธาน วู้ดเกตและเจอร์เมน เดโฟซึ่งลงเล่นในถ้วยนี้ได้ก็ดันเจ็บซะ ไม่อย่างนั้นเราคงได้ลุ้นมากกว่าที่เห็นแน่ๆ
ถึงตอนนี้ก็ต้องเอาใจช่วยทีมเราให้หนีตกชั้นสำเร็จเป็นอันดับแรกครับ หลังจากนั้นค่อยมาว่ากันใหม่ในปีหน้าฟ้าใหม่ว่าจะดีขึ้นหรือเลวร้ายลงกว่าเดิม หรือไม่ อย่างไร!?